กรวุฒิไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด สำหรับประเด็นนี้ แต่ต้องการชี้ให้เห็น รัฐบาลผสมขาดเสถียรภาพ ทำให้การบริหารประเทศตั้งอยู่บนความหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจได้สนิทใจ มีการต่อรองสูง อาจถูกแทงข้างหลัง และหักหลังได้ง่าย อย่าลืมว่ามากพรรคมากความ หลากหลายนโยบาย การตัดสินใจบริหารประเทศยากเย็นแสนเข็ญต้องได้รับความเห็นชอบพรรคร่วมรัฐบาล การบริหารประเทศจึงจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่น หากเป็นรัฐบาลพรรคเดียว นโยบายเดียวกัน การบริหารง่ายและราบรื่นจริงมั้ยครับ
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีไม่ให้ สส. ฟังมติพรรค การสังกัดพรรคการเมืองของสมาชิกพรรคใช้เวลาน้อยเกินไป ทำให้สมาชิกย้ายพรรคง่ายขึ้น ไม่พอใจพรรค หัวหน้าพรรค สมาชิกพรรคด้วยกันสามารถย้ายพรรคได้ กลายเป็นสส.เร่ร่อนขายตัวไปเรื่อย ๆ ทำให้พรรคขาดเสถียรภาพเช่นกัน อีกกรณีหนึ่ง ที่มาของสว. เป็นสว.ลูกผสม จากการสรรหา 74 คน จากการเลือกตั้ง 76 คน แถมอีกกรณีหนึ่ง การ แบ่งเขต เลือกตั้ง ที่ สส. แบ่งเขต สส.สัดส่วนมั่วไปหมด ท่านผู้ชมไปลองอ่านดู ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 และพรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการคณะกรรมการเลือกตั้งจะเห็นเช่นเดียวกับกรวุฒิ นี้เป็นแค่ตัวอย่าง แค่น้ำจิ้มเท่านั้น กรวุฒิคิดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 นั้น จงแก้ไปเถิดครับรัฐบาล แก้ให้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศในอนาคต จึงอยากให้ สส. สอบตกช่วยสนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุน จงอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้รัฐบาลทำงานไป แก้ไป คุณอย่าลงเลือกตั้งเลย เพราะเป็นฉบับที่คุณไม่สนับสนุน คุณสุวิทย์อย่าตีฝีปากเลยว่าไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของสภา” หรือคุณคิดว่าถ้าแก้ไขแล้วกลัวการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะ เหมือนท่านกกต.ท่านหนึ่งพูด จะทำให้คุณตกงานใช่มัยครับ