สิ่งที่พันธมิตร ฯ ชอบอ้างเสมอเพื่อปลุกระดมประชาชน และชี้นำสังคม คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังอ้างถึงระบอบทักษิณ กรวุฒิไม่เห็นด้วยกับการดึงสถาบันหลักของชาติมาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นของสูงที่ประชาชนทุกหมู่เหล่า เถิดทูนไว้เหนือเกล้า การกล่าวอ้างโดยไม่มีเหตุอันควรระวังจะมีอันเป็นไปนะครับ สถาบันหลักดังกล่าวมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองโปรดอย่าได้อาจเอื้อมไปแตะต้องเด็ดขาด ส่วนอดีตนายก ทักษิณ ตัวท่านจะกลับมาสู่การเมืองทั้งที่ท่านได้ปฏิเสธไปแล้วก็ไม่เชื่อ ถ้าไม่เชื่อลองไปดูผลการวิจัยในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับรายวัน อาทิตย์ ที่ 27 เม.ย. 2551 หน้า 11 บอกว่าผลวิจัยชี้ “ทักษิณ” ไม่มีผลต่อเลือกตั้ง ซึ่งแถลงโดยนายปริญญา เทวนฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาคกฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์มหาลัยธรรมศาสตร์ ที่พวกท่านได้จัดชุมนุม 2 ครั้ง ผลการวิจัยที่น่าสนใจพบว่า “การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีความขัดแย้งเรื่องพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ตามที่เข้าใจกัน” เพราะมีผู้ตอบว่า เลือกใครหรือไม่เลือกไม่เกี่ยวกับพันตำรวจโททักษิณ ร้อยละ 62.51 เลือกเพราะชอบพันตำรวจโททักษิณ ร้อยละ 19.64 เลือกเพราะไม่ชอบพันตำรวจโท ทักษิณ ร้อยละ 17.85 แสดงว่าพันตำรวจโททักษิณ ไม่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งที่ผ่านมามากนัก แต่ที่มีผู้ตอบเพราะชอบพรรคและนโยบายพรรค ในแบบสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 66.09 และแบบแบ่งเขตที่เน้นเลือกคน ก็ยังเลือกเพราะพรรคร้อยละ 55.63 เห็นหรือยังครับพันธมิตร อดีตนายกไม่ได้มีอิทธิพลอะไร อย่ากลัวท่านอีกเลย และอย่าแอบอ้างท่านอีก พลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง เพราะประชาชนชอบนโยบายพรรคจริงไหมครับ แต่ที่ท่านออกมาชุมนุมเพราะขี้แพ้ชวนตี เลยพาลไปถึงรัฐบาลที่มาจากประชาชนเสียงข้างมากและกำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดียิ่งขึ้น ท่านจะไม่ฟังประชาชนเสียงข้างมาก หรือจะให้คล้อยตามพวกท่านเสียงข้างน้อยอย่างนั้นหรือ ไม่ผิดหลักการในระบอบประชาธิปไตยด้วยหลักการเสียงข้างมากหรือครับ ......

กรวุฒิไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด สำหรับประเด็นนี้ แต่ต้องการชี้ให้เห็น รัฐบาลผสมขาดเสถียรภาพ ทำให้การบริหารประเทศตั้งอยู่บนความหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจได้สนิทใจ มีการต่อรองสูง อาจถูกแทงข้างหลัง และหักหลังได้ง่าย อย่าลืมว่ามากพรรคมากความ หลากหลายนโยบาย การตัดสินใจบริหารประเทศยากเย็นแสนเข็ญต้องได้รับความเห็นชอบพรรคร่วมรัฐบาล การบริหารประเทศจึงจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่น หากเป็นรัฐบาลพรรคเดียว นโยบายเดียวกัน การบริหารง่ายและราบรื่นจริงมั้ยครับ


สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีไม่ให้ สส. ฟังมติพรรค การสังกัดพรรคการเมืองของสมาชิกพรรคใช้เวลาน้อยเกินไป ทำให้สมาชิกย้ายพรรคง่ายขึ้น ไม่พอใจพรรค หัวหน้าพรรค สมาชิกพรรคด้วยกันสามารถย้ายพรรคได้ กลายเป็นสส.เร่ร่อนขายตัวไปเรื่อย ๆ ทำให้พรรคขาดเสถียรภาพเช่นกัน อีกกรณีหนึ่ง ที่มาของสว. เป็นสว.ลูกผสม จากการสรรหา 74 คน จากการเลือกตั้ง 76 คน แถมอีกกรณีหนึ่ง การ แบ่งเขต เลือกตั้ง ที่ สส. แบ่งเขต สส.สัดส่วนมั่วไปหมด ท่านผู้ชมไปลองอ่านดู ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 และพรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการคณะกรรมการเลือกตั้งจะเห็นเช่นเดียวกับกรวุฒิ นี้เป็นแค่ตัวอย่าง แค่น้ำจิ้มเท่านั้น กรวุฒิคิดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 นั้น จงแก้ไปเถิดครับรัฐบาล แก้ให้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศในอนาคต จึงอยากให้ สส. สอบตกช่วยสนับสนุน ถ้าไม่สนับสนุน จงอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้รัฐบาลทำงานไป แก้ไป คุณอย่าลงเลือกตั้งเลย เพราะเป็นฉบับที่คุณไม่สนับสนุน คุณสุวิทย์อย่าตีฝีปากเลยว่าไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของสภา” หรือคุณคิดว่าถ้าแก้ไขแล้วกลัวการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะเป็นโมฆะ เหมือนท่านกกต.ท่านหนึ่งพูด จะทำให้คุณตกงานใช่มัยครับ

นายสุวิทย์ คุณกิติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ออกมากล่าวรัฐบาลไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภา รัฐบาลควรแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน กรวุฒิเห็นด้วยกับคุณสุวิทย์ ฯ แต่คุณสุวิทย์ เป็นสส.สอบตกมิใช่หรือ ทำไมเสียงดังจัง ควรเสงี่ยมเจียมตัวบ้าง เค้าเชิญมาเป็นรองนายกนับว่าเป็นบุญแล้ว ถ้ากรวุฒิสอบตกแสดงว่าสอบตกแสดงว่าประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่ให้ความไว้วางใจ ควรยุติบทบาททางการเมืองสักระยะหนึ่ง ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง
กรวุฒิติดตามรัฐบาลมาตลอด ก็เห็นรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน พร้อมกับแก้ไขรัฐธรรมนูญไปพร้อมกัน ขอร้องเถิดครับมือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ หรือว่าท่านรองนายกออกมาพูดเพราะมีวาระซ่อนเร้นครับ

นั่งฟังวิทยุ คลื่น 100.5 เวลา 17.00 - 17.30 เมื่อ 22 เม.ย. 51 คุณเสรี สุวรรณภานนท์ รองประธานสภา ร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 1 ท่านให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล มุมมองของท่านมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพื่อลบล้างความผิดของพรรคการเมืองที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ท่านบอกว่าถ้าแก้ไขหลังการถูกลงโทษจะเหมาะสมมากกว่า และท่านยังมองไปถึงว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประชาชนรับร่าง ถึง 14 ล้านเสียง จะทำอะไรให้คำนึงถึงเสียงประชาชนบ้าง กรวุฒิไม่อยากพูดถึง เพราะเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับ 14 ล้านเสียง แต่เพื่อความเป็นธรรม สำหรับรัฐบาล ก็ต้องอ้างประชาชนเช่นกัน เพราะรัฐบาลมาจากประชาชนเสียงข้างมาก ย่อมมีสิทธิ์ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อลบล้างรัฐธรรมนูญเผด็จการ
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องกรุณาเปิดดู “ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ที่ใช้สำหรับลงประชามติ เมื่อ 19 สิงหาคม 2550 จะพบรายละเอียดดังนี้ (เล่มสีเหลืองที่ส่งไปตามบ้านครับ)

  1. สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมีทั้งหมด 101 คน มีท่านเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นรองประธาน คนที่ 1 ประธานคือท่าน นรนิติ เศรษฐบุตร
  2. คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีทั้งหมด 35 คน มีคุณประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน
  3. ข้อสังเกต บุคคลในข้อที่ 1 มีชื่อซ้ำในข้อที่ 2 ถึง 22 คน ( จากทั้งหมด 35 คน ) เกินครึ่งหนึ่ง กรวุฒิ คิดว่าน่าจะแยกส่วนกัน คนคนเดียวอยู่คณะเดียวพอแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาว่า ชงเองกินเอง “หรือว่าท่านคือผู้รู้ในประเทศนี้ไม่มีใครแล้วนอกจากท่าน ถึงได้เวียนไปอยู่เกือบทุกคณะ” โดยเฉพาะบางคนไปอยู่ที่กกต. ก็มี (ห้ามบอกว่า คมช. แต่งตั้ง จึงเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของท่าน )
  4. คุณเสรี สุวรรณภานนท์ คุณจะมาบงการ ประชาชนทั้งประเทศให้อยู่ภายใต้อาณัติพวกคุณแค่ร้อยกว่าคนนี้หรือ ประชาชนไม่ได้เป็น ทาสของพวกคุณนะ! จำใส่ใจไว้ดี พวกผมเป็นคนนะครับไม่ใช่แมว !??

  1. ข้ออ้างของหัวหน้าพรรคการเมือง ท่านกล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับรายวัน เสาร์ที่ 19 เมษายน 2551 หน้า 17 ดังนี้
    “ข้ออ้างที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการทำรัฐประหาร
    ไม่เป็นประชาธิปไตยนั้นผมคิดว่าฟังไม่ขึ้น เพราะหากคิดเช่นนั้น
    สส.ทุกคนก็มาจากการทำรัฐประหารทั้งหมด เพราะมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน”
    ไม่ทราบว่าท่านคิดได้อย่างไร แสดงว่าท่านยอมรับการทำรัฐประหาร รวมทั้งสมาชิกพรรคของท่านทุกคน เชิญรับไปเถิด แต่ห้ามลากพรรคอื่นเขาล่ะ เพราะพรรคอื่นเค้าไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงประสานเสียงกันแก้ไข (หรือมีพรรคไหนไม่อยากแก้บ้าง บอกมาเลยครับ) กรวุฒิได้แต่ปลง ถ้าหัวหน้าพรรคการเมืองคิดได้แค่นี้ เราพวกเราประชาชนเจ้าของประเทศ จงจำพรรคนี้ไว้ให้ดี เลือกตั้งครั้งต่อไปคงเลือกง่ายขึ้น พวกเราคงไม่เลือกพรรคที่สนับสนุนการทำรัฐประหารใช่ไหมครับ

  2. สำหรับสว.ที่มาจากการสรรหา 74 ท่านนั้น จงยอมรับความจริงเถิดครับ เพราะท่านมาจากกรรมการสรรหาแค่ 7 คน ผิดกันราวฟ้ากับดินของสว.ที่มาจากการเลือกตั้ง 76 ท่าน เพราะแต่ละท่านต้องออกแรงกาย แรงใจ ทุนทรัพย์ กว่าจะได้เป็นสว. นอกจากนั้นต้องผ่านด่านของ 5 อรหันต์ กกต. เลือดตาแถบกระเด็น หรือว่าท่านสว.สรรหา ว่าไม่จริงครับ

เอาอีกแล้ว พูดเรื่องการ ซื้อสิทธิ์ ขายเสียง! ของท่านประธานที่ปรึกษาพรรคการเมืองพรรคหนึ่งในหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก รายวันฉบับวันที่ 16 เม.ย. 2551 เขารู้กันถ้วนหน้า มีท่านอยู่คนเดียว ทำไขสือไม่ทราบจริงหรือครับท่านช่างทาสี อย่าลืมง่ายสิครับ พระเด็จพระคุณท่าน ลูกใคร ที่พูดว่า สมาชิกพรรคการเมืองของท่านทำเงินหล่นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 200 ล้านบาทในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อหลายปีก่อน รู้สึกสมาชิกท่านนั้นเป็นถึงด็อกเตอร์ ชื่อท่านเหมือนธง... ของประเทศไทย รองหัวหน้าพรรคของท่านประธานที่ปรึกษาออกมาพูดว่า พรรคของท่านถูกสั่งให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเหมือนกัน แต่ท่านประธานที่ปรึกษาพรรคของท่านเก่งและพรรคท่านไม่ได้ทำความผิดชี้แจงเหตุผลจนเข้าตาคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ จึงรอดพ้นจากการถูกยุบพรรค ไม่เหมือนพรรคไทยรักไทย ชี้แจงอย่างไรไม่ทราบถูกยุบพรรค ผู้ที่ชี้แจงของพรรคไทยรักไทยเป็นด็อกเตอร์ทางกฎหมายทั้งนั้น เหตุผลไม่เข้าตาคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ บางท่านจบกม. จากฝรั่งเศส ยังแก้ต่างให้พรรคไทยรักไทยไม่ได้ กรวุฒิขำกลิ้ง อุตส่าห์นั่งฟังคำวินิจฉัย คิดว่าจะรอด ถูกยุบพรรคหน้าตาเฉย ท่านรองหัวหน้าพรรคครับ ท่านจำได้ไหมประธานคมช.พูดถึงบันได 4 ขั้นที่จะทำลายพรรคไทยรักไทย และช่วยพรรคของท่านให้ได้เป็นรัฐบาล แต่พรรคของท่านยังเอาชนะพรรคพลังประชาชนไม่ได้ อย่าพูดอีกเลยนะครับท่าน รองหัวหน้าพรรคอายฟ้าดินเปล่า


การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 มองประหนึ่งปัญหาโลกแตก หาความพอดีไม่ได้ถ้าจูนแนวความคิดที่เห็นต่าง สู่จุดเดียวกันทุกอย่างก็ลงตัวเดินหน้าแก้ไขได้ แต่ที่เป็นปัญหาเพราะ


  1. บางท่านมองว่าควรใช้ไปสัก 1 ปี หากมีจุดบกพร่องค่อยแก้ไข ท่านที่พูดเช่นนี้พูดทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามีข้อบกพร่อง แต่ท่านอยากอยู่ในตำแหน่งนาน ๆ จริงมั้ยครับ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องแก้มาตราที่มาของสว. ด้วย ท่านกลัวว่าถ้า สว.มาจากการเลือกตั้งท่านอาจไม่ได้เป็นสว. ก็เป็นได้


  2. พรรคการเมืองบางพรรคคิดว่าขณะนี้พรรคได้เปรียบ จึงสรรหาวิธีการเตะถ่วงไปให้นานที่สุด หากพรรคอื่นมีอันเป็นไปต้องยุบพรรค ก็เตรียมช้อนสส.แพแตก หวังพลิกกลับมาเป็นรัฐบาล แต่คิดว่าคงไม่ง่ายเกินไปหรอกนะ กรวุฒิ เคยดักคอไว้แล้วห้ามรับสส. เหล่านี้เด็ดขาด ถ้ารับก็กลืนน้ำลายตนเอง ระวังจะถูกตราหน้า “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” เพราะพรรคนี้เคยตราหน้าพรรคอื่นไว้ว่า “ถ้าสส.ของพรรคย้ายไปอยู่พรรคอื่น ก็จะโจมตีทันทีว่าสส.ถูกดูดไปบ้างละ สส.ถูกซื้อตัวไปบ้างล่ะ” และอย่าอ้างว่า “ถ้าย้ายมาอยู่พรรคตนเอง คือ ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน” จะเสียชื่อพรรคที่ได้รับการกล่าวขานว่า “เป็นสถาบันการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด” หมดนะครับ


  3. ถ้าจำไม่ผิดตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับแรก จนถึงฉบับปัจจุบัน เราจะมีรัฐบาลผสมเกือบทั้งหมด ยกเว้นฉบับปี 40 ที่มีรัฐบาลพรรคเดียว คือ พรรคไทยรักไทย สมัยอดีตนายกทักษิณเป็นรัฐบาลสมัยที่ 2 การที่มีรัฐบาลผสมทำให้การบริหารไม่ราบรื่นเกิดการต่อรองทางการเมือง ต่อรองผลประโยชน์สูง จนทำให้หัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรคกล่าวว่า “รัฐบาลผสมทำให้ไม่มีเสถียรภาพ” พอมีรัฐบาลพรรคเดียว หัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรคก็กล่าวว่า “เป็นเผด็จการทางรัฐสภา” ก็ไม่ทราบว่าหัวหน้าพรรคนั้นต้องการรัฐบาลแบบไหนกันแน่ สรุปให้ก็ได้พรรคของท่านเท่านั้นเป็นรัฐบาล จึงมีความชอบธรรม พรรคอื่นไม่มีความชอบธรรมใช่ไหมครับ หรือใครมีความเห็นต่าง เชิญแสดงความคิดเห็นได้ครับ แต่กรวุฒิคิดว่า เหตุผลที่รัฐบาลต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในการนำมาบริหารประเทศ ส่วนจะเพื่อพรรค เพื่อพวกพ้องคงไม่ทันการเพราะขบวนการยุบพรรคตั้งธงไว้แล้วจริงมั้ยครับท่าน

  • ว่าจะไม่พูดถึงมวยคู่เอก ณ เวทีรัฐสภา ระหว่างเก่ง ดอนเมือง กับสมเกียรติ พันธมิตร ให้บังเอิญไปเจอข่าวในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับรายวัน วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2551 หน้าที่ 11 ปชป. แจ้ง “การุน” หมิ่น “สมเกียรติ” จากการติดตามข่าวหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ ประโคมข่าวกันครึกโครม ใครผิดใครถูกก็ว่าไปตามหลักฐานแล้วกัน กรวุฒิคิดว่าเหตุที่เกิดมาจากขิงก็ราข่าแรง พูดถึงต้นทุนทางสังคมนำมาเปรียบเทียบมวยคู่นี้ ตามภาษามวย “กระดูกคนละเบอร์” ดังนี้
  • คุณสมเกียรติ ฯ แกนนำพันธมิตรเป็นถึงครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายและยังเป็นสส. บัญชีรายชื่อที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้นำเสนอ เพราะผลงานขับไล่ระบอบทักษิณจนนำไปสู่การปฏิวัติทำให้เผด็จการครองเมืองปีกว่า กระดูกมวยย่อมเป็นต่อ เก่ง ดอนเมือง แน่นอน
  • คุณการุน สส.พรรคพลังประชาชนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อน ลงเล่นการเมืองระดับชาติก็เจอปัญญาวุฒิการศึกษา นอกจากนี้ยังมีข่าวเป็นขาใหญ่ดอนเมือง มีระดับ ขนาดกล้ามีปัญหากับตำรวจเรื่องจับบ่อนไก่ กระดูกมวยย่อมเป็นรองสมเกียรติ พันธมิตรแน่นอน จริงไหมครับท่านผู้ชม
  • สรุปแล้วต่างไม่ยอมซึ่งกันและกัน ถือทิฐิ ผมต้องเด่นต้องดีกว่าคุณ เลยเกิดเป็นมวยคู่เอก ของสภาอันทรงเกียรติ ถ้าทั้งสองท่าน ยับยั้งชั่งใจ คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้แน่นอน กรวุฒิอยากติเพื่อก่อเพียงแค่ ต่อไปทำอะไรคิดถึงสถานะของตนเองที่เป็นสส.ของสภาอันทรงเกียรติ เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ขอให้มวยเอกคู่นี้เป็นคู่สุดท้ายของสภาอันทรงเกียรติเถิดครับ (คู่แรกคงจำได้ เป็นคู่ระหว่างสว. )

  1. ตามที่โหรทำนายทายทักเรื่องการเมืองทุกวันนี้ โหรแต่ละท่านก็ว่าไปตามตำราที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจากสำนักไหนก็ตาม ถูกบ้างผิดบ้างก็ว่ากันไป ถ้าถูกก็ได้เฮ ถ้าผิดล่ะ ... เซ็ง ! ก็หมอดูคู่กับหมอเดา ก็สบายใจไปอย่างอย่าได้ซีเรียสนะครับ

  2. โหน ก็คือโหนกระแส โหรทำนายไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง ก็ทึกทักว่าโหรท่านเก่ง ทำนายแม่นยำ ทุกต้อง … ก็กระพือข่าวว่าโหรท่านนี้ทำนายแม่นเหมือนกับตาเห็น ? ปากต่อปากเหมือนไฟลามทุ่ง สุดท้ายท่านโหรก็ได้รับผลประโยชน์เต็ม ๆ ลูกศิษย์ลูกหามีทุกระดับ แม้แต่ระดับชาติก็ยังมีเลยจริงมะ ถ้าคนระดับนี้ยังเชื่อโหร ยอมเป็นลูกศิษย์ คิดแล้วประเทศไทยว้าเหว่จริงนะครับ ... แล้วท่านคิดเหมือนผมหรือเปล่าครับ

  1. การโยกย้ายข้าราชการเพื่อคืนความชอบทำให้กับข้าราชการที่ถูกโยกย้ายสมัยคมช. พิสูจน์ได้หรือยังว่ารัฐบาลสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนครีทำถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ เพราะการโยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขณะนี้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถูกให้ออกราชการไว้ก่อนท่านโดนข้อกล่าวหาว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง แต่ท่านยังสามารถร้องศาลปกครองเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่านได้ พันธมิตรจะว่าอย่างไร? เห็นโจมตีรัฐบาลท่านนายกสมัคร สุนทรเวช ว่าการย้ายข้าราชการตำรวจเพื่อต้องการฟื้นอาณาจักรตำรวจพันธมิตรทั้ง 5 และหนึ่งมหา จะตอบสังคมอย่างไร? … เชิญครับ ถ้าไม่ตอบคำถามต่อไป “อย่าว่าเองเออเอง สรุปเองนะครับ” เพราะประชาชนไม่เชื่อถือท่านอีกต่อไปแล้ว

  2. การที่พันธมิตรทั้งกับ 1 ท่านมหาออกมาเคลื่อนไหว และส่งเสียงคำรามอยู่คณะนี้ แสดงว่าต้องมีวาระซ่อนเร้นอย่างแน่นอน … ซ.ต.พ. (ซึ่งต้องพิสูจน์)

  1. พันธมิตรจะมีอิทธิพลเหนือจิตใจของคนทั้งประเทศจริงหรือ? ใครคิดว่ามีอิทธิพลจริง ! กรุณาช่วยตอบที โดยยกเหตุผลประกอบด้วย
  2. ขณะนี้พันธมิตรกำลังรณรงค์ปลุกระดมให้ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ถ้าประชาชนออกมาชุมนุมจนสามารถขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริงประชาชนส่วนหนึ่งคงยอมสิโรราบให้จริงไหม และยอมให้พันธมิตรปู้ยี่ปู้ยำประเทศได้ตามอำเภอใจ แต่ประชาชนส่วนใหญ่เจ้าของประเทศคงไม่ยอมใช่ไหมครับ หรือยอมเขาครับเพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ !?
  3. การชุมนุมครั้งต่อไปของพันธมิตรจะเป็นการพิสูจน์ว่าพันธมิตรคือผู้ทรงอิทธิพลอย่างแท้จริง ห้ามกระพริบตา



  1. พรรคการเมืองบางพรรคกลัวอดีตนายกทักษิณจะกลับมามีอำนาจอีกที กลัวนโยบายการทำงานของท่านอดีตนายกทักษิณ ถึงกับบอกว่านโยบายของท่านอดีตนายกทักษิณ คือ ระบอบทักษิณ ถ้าคิดว่านโยบาย หรือระบอบทักษิณไม่ดีต่อประเทศชาติ ทำไมพรรคของท่านไม่คิดหานโยบายดี ๆ ที่สามารถเอาชนะใจประชาชน? ถ้านโยบายของพรรคท่านเป็นนโยบายที่ดี สามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีเศรษฐกิจที่ดี ประเทศชาติเจริญ ไม่มีปัญหาคอรัปชั่น รับรองว่าประชาชนต้องเลือกพรรคของท่านแน่นอน แต่ในอดีตพรรคของท่านบริหารประเทศมา 2 สมัย ทำอะไรให้ประชาชนประทับใจบ้าง ปัญหาคอรัปชั่นมีหรือเปล่าไม่ทราบ มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือเปล่าทราบ การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมหรือเปล่าไม่ทราบ แต่พรรคของท่านเคยยุบสภามีการลงมติหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กรณี สปก. 4 -01 ใช่หรือไม่

  2. จากการติดตามสถานการณ์มีบางกลุ่มคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวหาว่าแก้เพื่อหนีการถูกยุบพรรคบ้างล่ะ แก้เพื่อคนคนเดียวบ้างล่ะ ที่เค้าอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะเกิดขึ้นในสภาวะที่ไม่ปกติก็ไม่ฟัง เมื่อไม่กี่วันมานี้อาจารย์คณิณ บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 กล่าวไว้ในรายการหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ NBT ว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ได้มาจากขบวนการที่ไม่ปกติตั้งแต่ต้น กล่าวคือ ฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญปี 40 สมาชิกร่าง สสช. องค์กรอิสระ ฯลฯ มาจากการแต่งตั้งของคมช. ทั้งสิ้น!! กลุ่มของท่านจะไม่สำเนียกบ้างหรือกับเสียงของอาจารย์คณิณ ฯ ? ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ท่านคิดว่ากลุ่มของท่านจะได้เปรียบทางการเมืองละซิ ฝันไปหรือเปล่าเพราะคนอีสาน คนเหนือ และคนภาคบางส่วนยังนิยมนโยบายของอดีตนายกทักษิณ

  3. พรรคการเมืองบางพรรคคาดหวังสูงเกินไปหรือเปล่า กล่าวคือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชชิมา ฯ คงคิดว่าสมาชิกพรรคเหล่านี้คงมีไปร่วมพรรคของท่านใช่หรือไม่ ถ้าท่านมีสปิริตจริงห้ามรับสส. เหล่านี้เข้าพรรคของท่านนะครับ โดยเฉพาะพรรคชาติไทยที่เคยร่วมบอยคอตการเลือกตั้งกับพรรคของท่าน ทำให้เกิดวิกฤตทางการเมือง และนำไปสู่การปฏิวัติ แต่ปัจจุบันร่วมรัฐบาลอยู่อย่าลืมง่ายนักล่ะ! เพราะพรรคเคยหักหลังพรรคของท่านโดยจะไปร่วมรัฐบาลพลังประชาชน แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกนะที่สมาชิกพรรคเหล่านี้จะไปร่วมกับพรรคของท่าน เพราะแต่ละพรรคได้ดำเนินการตั้งพรรคใหม่รองรับแล้ว ถ้ากรรมการบริหารพรรคถูกเว้นวรรค เค้าคงหากรรมการพรรคใหม่ได้ อย่าห่วงเลยนะครับ


  1. ยังจำได้ไหม รัฐบาลขิงแก่ยังรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 เสียงส่วนใหญ่ไม่อยากรับอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการบ้างล่ะ เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มาจากประชาชนบ้างล่ะ ถ้าไม่รับจะมีผลเสียมากกว่า ให้รับไปเถิดค่อยมาแก้ไขทีหลัง - “หากไม่รับ ให้ คมช. ประชุมกับ ครม. เพื่อพิจารณารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่เคยประกาศใช้บังคับมาแล้วฉบับใดฉบับหนึ่งมาปรับปรุงให้แล้วเสร็จใน 30 วัน นับแต่วันออกเสียงประชามติไม่เห็นชอบ” - ความตอนหนึ่งในมาตรา 32 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2549 รายละเอียดให้ไปอ่านในมาตรานี้แหละ (เพราะมาตรา 32 ใช่หรือไม่ ที่บีบบังคับให้ประชาชนไม่มีทางเลือก จึงต้องรับร่างไปก่อน พวกที่ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปอ่านดูซะดี ๆ อย่าลืมง่ายนัก

  2. การพิทักษ์นักการเมืองบางพรรคไม่อยากแก้ไข ฯ อ้างเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ เพราะพรรคนี้ชอบฉวยโอกาส ถ้าเขาสามารถแก้ไขได้สำเร็จก็จะเห็นดีเห็นงามด้วย แต่ถ้าไม่สำเร็จจะคอยซ้ำเติม หรืออาจคิดว่าจะแก้ไขได้อย่างไร เพราะทางภาคใต้เห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าแก้ไข ฯ กลัวจะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองจริงไหม ?

  3. นักวิชาการจากหลายสำนักประสานเสียงต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 จะไม่เป็นการสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการหรือครับ ช่วงที่เขาร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เห็นออกมาต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์ว่าขัดต่อหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม หรือว่ากลุ่มนักวิชาการที่ต่อต้านการแก้ไขกับกลุ่มที่ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ เป็นคนละกลุ่มกัน แล้วพวกเราประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะเชื่อใครละครับ พระเด็จพระคุณท่าน


  1. ประเทศไทยมี NGO คอยคัดค้านการพัฒนาประเทศของรัฐบาลมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องเขื่อน ไม่ว่าเขื่อนปากมูล เขื่อนแก่งเสือ เป็นต้น จะอ้างว่าทำให้ระบบนิเวศเสียหาย ทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน ทำให้ป่าอนุรักษ์เสียหายและอื่น ๆ อีกมากมายที่จะอ้าง การจะทำอะไรรัฐบาลต้องมีการศึกษาผลดีผลเสียก่อน ถ้าผลดีมากกว่าถึงจะลงมือทำ กรณีเขื่อนปากมูลที่คุ้นหน้าคุ้นตามีอยู่สองคน คนแรกเป็นแกนนำอยู่ที่บริเวณเขื่อนปากมูล คือ คุณนิตยา ฯ (หรือคุณมด) เสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้เอง คนที่ 2 บริเวณเขื่อนราศีไศล คนนี้ชาวราศีไศลกำลังคิดถึง เป็นหนึ่งกลุ่มพันธมิตร


  2. ผลงานของ NGO วันนี้ คือ เมื่อ 2 มีนาคม 2551 ข่าวภาคเที่ยงของช่อง NBT (ช่อง 11 เดิม) รายงานข่าวการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคที่จังหวัดอุบลราชธานี ทางการต้องนำน้ำแจกจ่ายประชาชน ทางจังหวัดบุรีรัมย์ การเลี้ยงปลากระชังต้องหยุดชะงัก เพราะแม่น้ำมูลแห้งขอด เห็นหรือยังครับการเปิดเขื่อนไม่ยอมกักเก็บน้ำไว้ ถ้ากักเก็บน้ำไว้น้ำเต็มฝั่งตามเกณฑ์ที่เขื่อนกำหนดไว้ มีประโยชน์ต่อระบบชลประทาน ต่อระบบน้ำใต้ดิน และระบบน้ำผิวดิน ถามว่าขุดบ่อน้ำตื้นได้ง่ายเป็นผลดีต่อเกษตรกร การกักเก็บอาจกระทบต่อระบบนิเวศบ้างเป็นเรื่องปกติ เมื่อชั่งน้ำหนักดู ผลดีมากกว่าแน่นอน เพราะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรลุ่มแม่น้ำมูล ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส เนื่องจะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคดังกล่าว "ทั้งคุณ NGO รวมทั้งคนที่เป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรกรุณาไปช่วยเหลือชาวบ้านด้วยนะครับ" ชาวบ้านจะขอบคุณเป็นอย่างสูง

......โอกาสหน้าจะเล่าเรื่องป่าดงนาทาม ......

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)