คุณแม่สิมารักษ์ตอบชัดเจนว่ารัฐบาลมีความขัดแย้งกับรัฐบาลกัมพูชาเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือลูกคุณแม่และยังกล่าว อย่าเอาลูกคุณแม่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลทราบแล้วเปลี่ยน และยังกล่าวต่อว่าต้นเหตุที่ทำให้ลูกคุณแม่ต้องประสบเคราะห์กรรม คือ นายคำรบ ปาลวัฒนวิชัย ที่โทรไปหาลูกคุณแม่ขอทราบตารางการบินของท่านทักษิณ นายคำรบ ฯ จะปล่อยให้ลูกคุณแม่ติดคุกโดยไม่รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ? นี่คือ คำตัดพ้อของหัวอกผู้เป็นแม่ รัฐบาลสงบปากสงบคำจะดีกว่า และควรดำเนินการดังนี้


1. สืบสวนให้ทราบถึงต้นตอที่ทำให้นายศิวรักษ์ติดคุก 7 ปี โดยสอบสวนว่าใครสั่งการให้นายคำรบดำเนินการเช่นนั้น ไล่ดะไปจนถึงรัฐมนตรี อาจถึงนายกรัฐมนตรีผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แม้จะมองไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม

2. ในเมื่อคุณแม่ศิวรักษ์ตัดสินใจพึ่ง พล.อ. ชวลิต   ท่านทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ในการช่วยเหลือลูกคุณแม่รัฐบาลควรให้โอกาส อย่าพูดประชดประชันเหมือนนายชวนกล่าวว่า ทราบผลคดีล่วงหน้าได้อย่างไรจึงเตรียมการขอพระราชธานอภัยโทษ สำหรับนายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า "การที่พรรคเพื่อไทยเตรียมขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์อยากถามว่าพรรคเพื่อไทยเป็นญาติกับนายศิวรักษ์" นายปณิธานคิดได้แค่นี้เองหรือครับ

3. รู้ทั้งรู้ สมเด็จ ฮุนเซ็น กล่าวว่าท่านไม่ได้เป็นศัตรูกับคนไทย แต่เป็นศัตรูกับนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต มันชัดเจนอยู่ในตัว ถ้ารัฐบาลยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ อาจจะไม่ได้รับร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชาก็เป็นได้

4. เป็นความคิดเห็นของกรวุฒิ ถ้ารัฐบาลช่วยเหลือ นายศิวลักษณ์ อาจติดคุกหัวโต เพราะเหตุผลตามข้อ 3 แต่อาจเป็นข้อดีก็เป็นได้ เพราะถ้ากลับประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ยังเป็นรัฐบาล อาจไม่ปลอดภัย เพราะรัฐบาลชุดนี้ปากกับใจไม่ตรงกันแทบทุกเรื่อง เห็น ๆ กันอยู่

ท้ายสุดขอให้คุณแม่สิมารักษ์ จงเข้มแข็งอดทนและเชื่อมั่นคนไทยไม่ทิ้งคนไทย กรรมดีจะส่งผลให้ครอบครัวคุณแม่พ้นวิบากกรมนี้ได้แน่นอน

1 ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ  

    ใช่ครับ สงบปากสงบคำเสียดีกว่า ถ้าเที่ยวไปโพสตามเวปโน้นเวปนี้ พอคนอื่นเขาถามก็ไม่เคยตอบหรือไม่คิดจะตอบหรือตอบไม่ได้ ก็อย่าไปโพสเลยครับ สงบปากสงบคำจะดีกว่า

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)