คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข โดยมี นพ. บรรลุ ศิริพานิชย์ เป็นประธาน แถลงผลการสอบสวนเมื่อ 28 ธ.ค. 52 ชี้มูลความผิดนักการเมือง 4 คน ข้าราชการประจำ 8 คน ส่งผลให้นายวิทยา แก้วพราไดย์ รัฐมนตรีว่าการลาออกวันนี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ถือเป็นบรรทัดฐานให้นักการเมืองที่ส่อเจตนาโกงกินได้สำเนียกไว้ กรรมใดใครก่อก็รับกรรมไป คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคและหัวหน้ารัฐบาลจะว่าอย่างไร ก็ไหนบอกว่าเป็นนายกมือสะอาด เพราะมีถึงสองคนแล้วที่กระเด็นตกเก้าอี้ คนแรกนายวิฑูรย์ นามบุตร กรณีปลากระป๋องเน่า คนที่สอง ก็นายวิทยา แก้วพราไดย์ ในฐานะสวมหมวกสองใบ น่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเป็นผู้คัดเลือกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน แต่ถ้าไม่ได้คัดเลือกแสดงว่าเป็นนายกหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจอะไรจริงมะ ถ้าอยู่ในวิสัยที่จะออกมาขอโทษประชาชนว่า "ผิดไปแล้ว" ประชาชนอาจยอมรับได้ แต่คิดว่าคนอย่างนายอภิสิทธิ์คงโยนความผิดให้คนกลัวว่าเป็นความผิดเฉพาะคน แต่อย่าลืมนะว่าเป็นปลาข้องเดียวกันหรือว่าไม่จริง

เทพเทือกพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า "นายกอภิสิทธิ์เป็นนักประชาธิปไตย ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองด้วยวิธิการนอกเหนือที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ" (มติชนรายวัน เสาร์ที่ 26 ธ.ค. 52 หน้า 3) ถ้าอย่างนั้นพฤติกรรมต่อไปนี้กำหนดในรัฐธรรมนูญใช่ไหม คือ

1. การร่วมมือกับพันธมิตรล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจนนำไปสู่การปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. 49

2. เมื่อแพ้การเลือกตั้งต่อพรรคพลังประชาชนยังร่วมมือกับพันธมิตรโค่นล้มรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย

3. เพื่อเป็นการยืนยันว่าร่วมมือกับพันธมิตรจริงเมื่อพรรคของตนเองได้เป็นรัฐบาลโดยวิธีพิเศษจนได้ฉายาว่า "รัฐบาลโจร" ปล้นอำนาจอธิปไตยของปวงชนและยังเหยียบย่ำหัวใจของประชาชนโดยการแต่งตั้งผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายสากลเป็นรัฐมนตรี

นี่หรือนายกนักประชาธิปไตยของเทพเทือก แต่ทั่วโลกเขารู้ว่าเป็นรัฐบาลโดยวิธิพิเศษ แทนที่จะเอาปี๊บคุมหัวกลับสรรเสริญเยินยอไปเสียฉิบ มันน่าทุเรศสิ้นดี

มาร์คม. 7 โชว์เดี่ยวไมค์โครโฟนแถลงผลงานรอบ 1 ปี เมื่อ 23 ธ.ค. 52 ก็เป็นไปตามคาด คือ สอบผ่าน อย่างว่า "ชงเองกินเอง" แต่ที่น่าสนใจคือ นักวิชาการบางคนประเมินว่า 1 ปีมาร์คม.7 "สอบตก"   ... ด้านการเมือง - เศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (EDRI) ประเมินผลงานรัฐบาล "สอบตก" เช่น เช็คช่วยชาติ 2000 บาท , ต้นกล้าอาชีพ , โครงการชุมชนพอเพียง , โครงการไทยเข้มแข็ง โดยเฉพาะโครงการจัดชื้อเครื่องมือทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น  แล้วอย่างนี้จะให้กรวุฒิเชื่อใคร คงต้องเชื่อนักวิชาการและ TDRI เพราะเป็นคนนอกและเป็นคนกลางประเมิน จริงไหมมาร์คม.7

นอกจากนี้ยังสนใจกรณีเอกสาร "ลับมาก" หลุดออกจากกระทรวงการต่างประเทศสู่สายตาทั้งไทยและเทศ ปกติชั้นความลับของทางราชการมี 4 ชั้น คือ 1. ลับที่สุด, 2.ลับมาก , 3. ลับ , 4.ปกปิด การที่เอกสารชั้นลับมากหลุดออกมา มันบ่งบอกถึงขีดความสามารถของหัวหน้าส่วนราชการนั้น ๆ หัวหน้าส่วนราชการคนนั้น คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ... นายกษิต พิรมย์ ดังนั้น นายกษิต ไม่ต้องโทษใครที่ไหน โทษตัวเอง เพราะ ไม่สามารถกำกับดูแลได้ ถ้าเป็นคนมีสปริตสักนิด จงลาออกไป แต่มีรึ? คนอย่างนายกษิตจะมีสปริต ขนาดโดนข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อการร้ายสากล กรณียึดสนามบินสนามบิน ยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยจริงมะ!

1. บอกว่าเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ เหตุการณ์ภาคใต้จะสงบ ผ่านมาหนึ่งปีแล้วเหตุการณ์สงบจริงหรือไม่? ตายรายวัน เหตุการณ์แต่ละครั้งหนักหนาสาหัสขึ้นทุกวัน น่าสงสารชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้จจริง ๆ

2. คุยกับนายกมาเลชียมาร์ค ม. 7 ได้ยินเต็มสองรูหู ว่าเหตุการณ์ภายใจจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาภายในของไทย มาเลเชียจะให้ความร่วมมือเท่าที่จำเป็น ชัดเจนไหม?

3. จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาร์คม. 7 จะปล่อยไว้อย่างนี้หรือ ในเมื่อคุณแก้ไม่ได้ ทั้งที่เป็นพื้นที่อิทธิพลของพรรคคุณ หรือคุณจะปล่อยไปอย่างนี้ในเมื่อคนเหล่านั้นไม่ใช่ญาติโกโหติกาของคุณ ถ้าอย่างนั้นคุณจงไปเสีย อย่าได้ทำร้ายประชาชนไปมากกว่านี้อีกเลย

1. การก้าวขึ้นสู่อำนาจของนายอภิสิทธิ์ ไม่ปรกติ เพราะ มีหลายกลุ่มอุ้มขึ้นสู่อำนาจกลายเป็นนายกหุ่นเชิด ไม่สง่างาม ถ้าเป็นคนปรกติจิตใต้สำนึกต้องเตือนว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ถูกต้อง หากเป็นคนไม่ปรกติอะไรก็ได้ที่ทำให้ตนขึ้นสู่อำนาจ ทำทั้งนั้นขอให้ได้อำนาจเป็นพอ

2. เรื่องกกต.ที่กำลังทำในสิ่งที่ฝืนจิตใต้สำนึกของตนเอง กรณีเงิน 258 ล้านบาทของบริษัท ทีพีไอ ฯ จะยุบไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ถ้ามีจิตใต้สำนึกที่ปรกติ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ต้องยุบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ยกคำร้อง แน่ที่สุดคือนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เสนอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนอีกสามหน่อ แทงกั๊กทั้งที่จิตใต้สำนึกบอกต้องยุบ แต่โยนเผือกร้อนให้นายทะเบียนพรรคการเมือง คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ จะออกหัวออก้อย อยู่ที่จิตใต้สำนึกคนคนนี้ว่าปรกติหรือไม่ปรกติ เพราะมาตรฐานที่ผ่านมาไม่ว่าพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชชิมาธิปไตย ฯลฯ จิตใต้สำนึกนี้ยังย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลา

3. สำหรับคดีผู้ก่อการร้ายของพันธมิตรที่ยึดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ จะเกือบปีแล้ว ผู้คนเหล่านี้ยังลอยนวล บางครั้งยังออกกระแทกรัฐเล่นสนุกปาก รัฐบาลไม่กล้าอือไม่กล้าฮือ เป็นที่สงสัยของประชาชน จิตใต้สำนึกของรัฐบาลในกรณีนี้น่าจะผิดปกติแน่ ๆ

ใช่แต่กรวุฒิเท่านั้นที่สงสัย ในจิตใต้สำนึกเหล่านี้ ประชาชนคนไทยเจ้าของอำนาจตัวจริงเสียงจริงก็สงสัยเช่นกัน

การแจกปฏิทินวาบหวิวนางแบบ 6 คน เปลือยล่างบอดี้เพนท์ชื่อผลิตทั้งตัว โดยน.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ทายาทบริษัทสิงห์ คอเปอร์เรชั่น เมื่อบ่ายวันที่ 17 ธ.ค. 52 เห็นหน้าบางทั้งหลายออกมาโจมตีสาดเสียเทเสีย ถึงความไม่เหมาะสมที่มาแจกในทำเนียบรัฐบาล จนน.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี แสดงความรับผิดชอบลาออกจากข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อยากถามกลับไปยังท่านหน้าบางทั้งหลายเพื่อเตือนความทรงจำสักนิดดังนี้

1. ช่วงที่พันธมิตรยึดทำเนียบรัฐบาลหลายเดือน ตามกระแสข่าวว่ามีถุงอนามัยเกลื่อนทำเนียบ แสดงว่าพันธมิตรใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่สมสู่ใช่หรือไม่

2. การใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่สมสู่ของเหล่าพันธมิตร มันน่าจะทุเรศยิ่งกว่าการแจกปฏิทินปกนางแบบเปลือยร่างจริงมะ

3. กรวุฒิเคยเสนอว่า น่าจะย้ายทำเนียบรัฐบาลไปที่อื่น เพราะใครก็ตามที่นั่งทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลปัจจุบันคงตะขิดตะขวงใจพิกล อาจเกิดภาพหลอนว่าตรงที่เรานั่งทำงานเป็นที่สมสู่ของเหล่าพันธมิตร ก็ดีแล้วที่จะย้ายทำเนียบรัฐบาลไปที่อื่นในเร็ววัน เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบจะได้สบายใจขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่สุภาพสตรี

ถ้าหน้าบางจริงโปรดกรุณาดำเนินการกับพันธมิตรโดยเร็ว เพราะการยึดทำเนียบเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติ นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรยังบังอาจใช้ทำเนียบเป็นที่สมสู่เหมือนทำเนียบเป็น ...

คำนี้เป็นคำพูดที่ชินหูในวงการทหารยุคโบราณ สมัยนี้คงไม่ใช่ เพราะทหารกำลังห้ำหั่นกันเพื่ออำนาจ อำนาจนี้นักการเมืองเสี้ยมให้ทะเลาะกัน หลายกรณีที่เกิดขึ้นมีการ ฆ่าน้อง ฟ้องนายขายเพื่อน แทบทั้งสิ้้น เช่น

1. การปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. 49 ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และนายกที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่มีแผ่นดินอยู่ หัวหน้าคณะปฏิวัติเป็นตท. รุ่น 6 นายกทักษิณ เป็นตท. รุ่น 10 ทั้งที่นายกทักษิณเป็นคนแต่งตั้งหัวหน้าคณะปฏิวัติเป็นผบ.ทบ. นายกทักษิณแทบกระอักเป็นเลือด พี่หนอพี่ทำผมได้

2. ปฏิวัติเสร็จไม่ยอมเป็นนายก กลับประเค็นให้ท่านสุรยุทธิ์ ตท. 1 เป็นนายก ทำไปทำมาไม่ทราบว่าใครใหญ่ ระหว่างนายกกับหัวหน้าคณะปฏิวัติซึ่งมีอำนาจล้นฟ้า จนหัวหน้าคณะปฏิวัติบ่นด้วยความน้อยใจว่า "ถ้ารู้ว่าจะเป็นอ่ย่างนี้ เป็นนายกเองดีกว่า" มันก็สายไปแล้วต๋อย

3. ผบ.เหล่าทัพ นำโดยผบ.ทบ. ออกทีวีข่มขู่นายกสมชาย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ว่า ถ้าเป็นผมลาออกไปแล้ว กรณีสลายม็อบพันธมิตรที่หน้ารัฐสภา

4. กรณีเสธ. แดง กับผบ.ทบ. เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ ระหว่างเตรียม 10 และเตรียม 11 เสธ.แดงถูกทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ จะเข่นฆ่าให้อาสัญ อีกไม่นานเกินรอจะออกมาอย่างไร คงเข้ากรณี ฆ่าน้องและขายเพื่อนชัวร์

5. กรณีท่านพล.อ. ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ ที่มีหนังสือ ด่วนที่สุดถึงประธานองคมนตรีเรื่อง การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดนกรณีประสาทพระวิหาร ลง 19 มิ.ย. 51 ใจความดังนี้ "อนึ่งผมได้มีหนังสือถึงปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ รวมทั้งแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย เกี่ยวกับการแสดงออกอย่างชัดเจนของทหารทุกคนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และรักษาอธิปไตยแห่งดินแดน" พล.อ.เปรม บอกว่า "เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินอย่างหนึ่ง" แล้วพล.อ.ปฐมพงษ์ แต่งเครื่องเต็มยศขึ้นเวทีพันธมิตร

ทั้ง 5 กรณี ยกมาเพื่อเปรียบเทียบการกระทำความผิดระหว่างหัวหน้าคณะปฏิวัติ ผบ.ทบ. พล.อ.ปฐมพงษ์ และเสธ.แดง การที่เสธ.แดงโจมตีการกระทำของผู้บังคับบัญชา ความผิดไหนน่าจะถูกลงโทษมากกว่ากัน ประชาชนผู้มีใจเป็นธรรมโปรดพิจารณา ..

1. คนไทยเกิดจากท้องพ่อท้องแม่ ทุกคนเถิดทูนสถาพระมหากษัตริย์ทั้งนั้น รัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกมาปกป้องสถาบันดอก เพราะประชาชนทุกหมู่เหล่าเขาปกป้องเอง เห็นนายสุเทพให้บรรจุแผนป้องกันสถาบัน แผนยุทธศาสตร์ 9 ข้อ เทพเทือกคิดแค่นี้เองหรือ? ลองไปถามยายมียายมา ตาสีตาสา ว่าใครไม่รักสถาบันบ้าง ทุกคนจะตอบเป็นเสียงเดียวว่ารักและเทิดทูนสถาบันทุกคน

2. ถ้ารักสถาบันจริง ทำไมไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ทำไมเป็นรัฐบาลโจรปล้นเขามา คำว่ารัฐบาลโจร กระฉ่อนไปทั่วโลกเชียน่า

3. ขอทีเถิด การที่คุณดึงสถาบันมาแอบอ้าง ประชาชนเขาไม่ได้โง่นะครับ เขารู้ดีทุกเรื่อง แต่เขาเก็บไว้ในใจ อย่าให้เขาหมดความอดทน ถ้าหมดความอดทนเมื่อไหร่ ก็เห็นดีกันแน่

4. อย่าผูกขาดความรักสถาบันเพียงเฉพาะพวกคุณ ถ้าพวกคุณรักสถาบันจงไปเสียเถิด อย่าอยู่เพื่อสร้างความแตกแยกให้กับลูกพ่อของแผ่นดินต่อไป เชื่อผมเถิดยังไม่สาย เตือนด้วยความหวังดีนะครับ

1. กรณีบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ทำนิติกรรมอำพรางผ่านบริษัท เมซไซอะ ให้เงินสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ไม่ทราบว่ากกต.ทำไมทำงานอืดอาด เสมือนมีเจตนาจะช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่มีเจตนาน่าจะสรุปได้แล้ว ผิดไม่ผิดสังคมยอมรับได้ เพราะธงที่ตั้งไว้..ว่าไม่ผิด

2. ปปช.ครับ ที่พรรคเพื่อไทยยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ตั้งแต่เดือน มีนาคม 52 - 7 กรณีอืดเป็นเรือเกลือเช่นกัน ยกมาหนึ่งกรณีคือ ขอให้บริษัททรูมูฟ เอไอเอส และดีแท็คส่ง SMS ไปยังผู้ใช้บริการในโอกาสรับตำแหน่งนายก เมื่อรวมค่าใช้จ่าย 3 บริษัทเป็นเงินหลายล้านบาท การบริการดังกล่าวเป็นการให้ฟรี ตามประกาศปปช.เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2543  (ข้อ 3) ซึ่งมีมูลค่าเกิน 3,000 บาท กรวุฒิถามไปยังปปช.ว่าเรื่องดังกล่าวไปติดอยู่ตรงไหน ไม่แน่อาจติดความเหมือนรับงาช้างจาก นายโสภณ ชารัมย์ ก็เป็นได้ เพราะนายวิชา มหาคุณ บอกว่ารับมาแล้วถ้ารู้ทีหลังว่าราคาเกิน 3,000 บาท ส่งคืนเจ้าของก็สิ้นเรื่อง .. สรุปง่ายจริงนะ เป็นถึงนายกจะไม่ทราบได้อย่างไรว่างาช้าง 1 คู่ราคาเท่าไหร่ หรือว่าเป็นนายกเด็กอมมือตามที่เขาตั้งฉายาให้ อย่างนั้นก็แล้วไป ขอให้จำเริญเถิดพ่อคุณ

3. ที่อืดอาดเป็นเรือเกลือทำงานประเภทเช้าชามเย็นชาม อีกคดีหนึ่งคือคดีพันธมิตรยึดสนามบินเกินปีแล้ว เมื่อไหร่จะสรุปสั่งฟ้องเสียที เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า เป็นข้อหาผู้ก่อการร้ายที่ทั่วโลกจับตามอง ใครเป็นเจ้าของคดีรีบดำเนินการซะดี ๆ ที่ไม่กล้ารีบดำเนินการเพราะ เส้นม็อบกระตุกขาอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ประเทศไทยว้าเหว่จริง ๆ


1. ห้วงปี 2540 - 2543 สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ มีนายชวน หลีกภัยเป็นนายก ดำเนินการปิดกิจการของบริษัทเงินทุน 65 แห่ง มูลค่าประมาณ 8 แสนล้านบาท และเร่งรัดให้องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ประมูลขายได้เพียงประมาณเกือบ 2 แสนล้านบาท หรือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ผู้ประมูลทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ไม่กี่แห่ง การรีบร้อนขายทำให้ปรส.ได้ราคาต่ำ หนำซ้ำรัฐบาลยังกีดกันไม่ให้ลูกหนี้ หรือรายย่อยเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว ผลคือบริษัทต่างชาติเหล่านี้สามารถเร่งรัดให้ลูกหนี้ไทยจ่ายคืนเป็นสัดส่วน 60-70 เปอร์เซ็นต์ของเงินต้น

2. เกิดความเสียหายประมาณ 6 แสนล้านจากการประมูลของปรส. นับเป็นภาระภาษีของประชาชนคนไทยทุกคน รัฐบาลยอมออกพันธบัตรชดใช้ค่าเสียหาย 5 แสนล้านบาท ที่เหลือ 1 แสนล้านบาทรัฐบาลขายให้บริษัทบริหารทรัพย์ (บบส.) โดยแลกกับพันธบัตรของ บบส.

3. เรื่องทั้งหมดดังกล่าวเกิดในสมัยนายชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ มีส่วนรู้เห็น คงปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะเป็นการขายชาติอย่างมหาศาล DSI ระบุว่าคดีปรส. มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 5 คดี

เท่าที่กล่าวมาข้างต้น ในเมื่อ DSI ฟันธงคดี ปรส. ผิดจริง คนขายชาติตัวจริงคงไม่พ้นพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่

1. นายศิวรักษ์คือแพะที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตัวจริงคือนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย ถ้าไม่โทรไปหานายศิวรักษ์ เรื่องคงไม่เกิด พอเรื่องเกิดนายคำรบหายเข้ากลีบเมฆ ถ้านายคำรบไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฑูตที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ถูกลอกคอพร้อมนายศิวรักษ์และถูกตัดสินจำคุกแน่นอน เมื่อเกิดเหตุการณ์แทนที่รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบกลับกล่าวหาว่า "เป็นการจัดฉากของท่านทักษิณ ท่านฮุนเซ็น ท่านชวลิต และพรรคเพื่อไทย" ประชาชนคนไทยเขาไม่ได้โง่นะครับ เขารู้ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลต้องการจับท่านทักษิณพอล้มเหลวก็โยนความผิดให้คนอื่นทันที มันน่าทุเรศไหม?

2. รัฐบาลมีอำนาจล้นฟ้า เมื่อเกิดปัญหาเนื่องจากรัฐบาลเองเป็นผู้ก่อ หมดปัญญาจะช่วยเหลือแพะคนไทยคนนี้ เพราะอะไร? เนื่องจากรัฐบาลเป็นปฏิปักษ์กับนายกฮุนเซ็น จริงไม่จริงนายกฮุนเซ็นก็เปิดใจแล้ว ท่านไม่มีปัญหากับคนไทย แต่มีปัญหากับนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต กูถูกต้องแล้วนี่ที่คุณแม่ศิวรักษ์ไปขอความช่วยเหลือท่านทักษิณ ท่านชวลิต และพรรคเพื่อไทย ผลที่ออกมาทำให้ครอบครัวหลุดพ้นจากตราบาปที่ตนเองไม่ได้ก่อ โดยได้รับการอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา แทนที่จะแสดงความมีน้ำใจกลับต้องข้อสังเกตุว่าอาจเป็นการจัดฉาก นี่หรือผู้นำประเทศคิดได้แค่นี้เอง ประเทศไทยช่างว้าเหว่จริงที่มีผู้นำประเภทที่มีจิตใจคับแคบเช่นนี้

พูดไปก็เท่านั้นเอง เป็นรัฐบาลที่อำนาจล้นฟ้า แต่ไม่มีปัญญาช่วยเหลือ ขอเตือนคนไทยอย่าได้ไปก่อเรื่องในประเทศกัมพูชาเพราะคุณอาจไม่โชคดีเหมือนคุณศิวรักษ์ก็ได้

ตอกย้ำความน่าเชื่อถือจากคนภายในพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ออกมาขย่มนายวีระชัย วีระเมธีกูล รัฐมนตรีข้าวนอกนาจากเครือ CP ว่าอยู่ครบ 1 ปีคุ้มแล้ว คำว่า "คุ้มแล้ว" หมายถึง

1. กับเงินที่ซื้อตำแหน่งหรือไม่ เพราะครั้งที่แตกตั้งนายวีระชัย วีระเมธีกูล เป็นรัฐมนตรีมีการจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนพรรคปชป. แลกกับตำแหน่งรัฐมนตรี จริงไม่จริงพรรคปชป.ย่อมรู้อยู่แก่ใจ ถ้ามีการจ่ายเงินจริงเพื่อแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีก็แสดงว่าทุกตำแหน่งของรัฐมนตรีต้องจ่ายเงินทั้งนั้นใช่หรือไม่

2. มิน่าหล่ะ แทบทุกกระทรวงทบวงกรมมีการคอรัปชัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง หึ่งไปหมดตามที่ปรากฎตามหน้าสื่อแทบทุกสำนัก นี่คือรายการ "ถอนทุน" ใช่หรือไม่ ?

3. ต้องขอบคุณ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ที่กล้าหาญเปิดโปงเรื่องนี้ ประชาชนที่มีความสงสัยเรื่องดังกล่าวได้หูตาสว่าง โดยไม่ต้องออกแรงตรวจสอบ ขอบคุณจริง ๆ

4. ต้องถามกลับไปที่นาย อภิสิทธิ์ ผู้บริหารสูงสุดของประเทศว่าต้องการใบเสร็จอีกหรือไม่ คงไม่ต้องกระมัง เพราะเพื่อนเราเปิดโปงให้สังคมรับทราบหมดแล้ว


ทางออกที่ดีคงไม่ชี้นำเพราะรู้อยู่แก่ใจ จงไปเสียดีกว่า ประชาชนขับไล่ ถ้าประชาชนขับไล่อาจไม่มีแผ่นดินอยู่นะครับ

1. การที่นายศิวรักษ์ส่งตารางการบินท่านทักษิณให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เป็นการจัดฉากและนายศิวรักษ์ยอมติดคุก 7 ปี การกระทำครั้งนี้มันคุ้มแล้วหรือ ไหนจะเสื่อมเสียเกียรติยศวงศ์ตระกูล ไหนจะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้ขี้คุก และถูกออกจากงาน หมดอนาคต ถ้านายศิวรักษ์คิดได้แค่นี้ก็สิ้นคิดสิ้นดี แต่ถ้าเป็นการติดคุกโดยคนของรัฐบาลจัดฉากแสดงว่ารัฐบาลชุดนี้สิ้นคิดเช่นกัน โดยยัดเยียดความผิดให้คนไทยผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง และกรวุฒิตั้งข้อสังเกตว่าพอรัฐบาลทราบตารางการบินของท่านทักษิณบินผ่านประเทศไทยไปกัมพูชา เลยสั่งห้ามเครื่องบินส่วนตัวของท่านทักษิณบินผ่านประเทศไทยเวลาบินกลับดูไบ ท่านทักษิณต้องบินอ้อมไปทางประเทศอินโดนีเชีย จริงไม่จริงถามเทพเทือกดูสิ

2. ถ้าจัดฉากจริงตามที่รัฐบาลตั้งข้อสังเกต แสดงว่าคุณแม่สิมารักษ์ และนายศิวรักษ์ ผู้ลูกใช้ไม่ได้ ยอมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ยอมให้สังคมประนาม และคุณแม่สิมารักษ์เป็นคุณแม่ที่ใช้ไม่ได้ที่ยอมให้ลูกชายติดคุก และเป็นจอมลวงโลกทั้งแม่และลูก แต่ถ้าไม่ได้จัดฉากจริง ไอ้อีหน้าไหนที่ใส่ร้ายป้ายสีสองแม่ลูกของให้มีอันเป็นไปโดยไวเช่นกัน

แกนนำรัฐบาลนี้ตั้งแต่หัวแถวยันหางแถวมีพฤติกรรมถาวรคือ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น การใส่ร้ายป้ายสีคนบริสุทธิ์สองแม่ลูกระวังซักวันกรรมนั้นจะตกแก่ตัวท่านและลูก ๆ ของท่านเช่นกัน

คุณแม่สิมารักษ์ตอบชัดเจนว่ารัฐบาลมีความขัดแย้งกับรัฐบาลกัมพูชาเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือลูกคุณแม่และยังกล่าว อย่าเอาลูกคุณแม่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลทราบแล้วเปลี่ยน และยังกล่าวต่อว่าต้นเหตุที่ทำให้ลูกคุณแม่ต้องประสบเคราะห์กรรม คือ นายคำรบ ปาลวัฒนวิชัย ที่โทรไปหาลูกคุณแม่ขอทราบตารางการบินของท่านทักษิณ นายคำรบ ฯ จะปล่อยให้ลูกคุณแม่ติดคุกโดยไม่รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ? นี่คือ คำตัดพ้อของหัวอกผู้เป็นแม่ รัฐบาลสงบปากสงบคำจะดีกว่า และควรดำเนินการดังนี้


1. สืบสวนให้ทราบถึงต้นตอที่ทำให้นายศิวรักษ์ติดคุก 7 ปี โดยสอบสวนว่าใครสั่งการให้นายคำรบดำเนินการเช่นนั้น ไล่ดะไปจนถึงรัฐมนตรี อาจถึงนายกรัฐมนตรีผู้บริหารสูงสุดของประเทศ แม้จะมองไม่เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ก็ตาม

2. ในเมื่อคุณแม่ศิวรักษ์ตัดสินใจพึ่ง พล.อ. ชวลิต   ท่านทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ในการช่วยเหลือลูกคุณแม่รัฐบาลควรให้โอกาส อย่าพูดประชดประชันเหมือนนายชวนกล่าวว่า ทราบผลคดีล่วงหน้าได้อย่างไรจึงเตรียมการขอพระราชธานอภัยโทษ สำหรับนายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า "การที่พรรคเพื่อไทยเตรียมขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์อยากถามว่าพรรคเพื่อไทยเป็นญาติกับนายศิวรักษ์" นายปณิธานคิดได้แค่นี้เองหรือครับ

3. รู้ทั้งรู้ สมเด็จ ฮุนเซ็น กล่าวว่าท่านไม่ได้เป็นศัตรูกับคนไทย แต่เป็นศัตรูกับนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต มันชัดเจนอยู่ในตัว ถ้ารัฐบาลยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ อาจจะไม่ได้รับร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชาก็เป็นได้

4. เป็นความคิดเห็นของกรวุฒิ ถ้ารัฐบาลช่วยเหลือ นายศิวลักษณ์ อาจติดคุกหัวโต เพราะเหตุผลตามข้อ 3 แต่อาจเป็นข้อดีก็เป็นได้ เพราะถ้ากลับประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ยังเป็นรัฐบาล อาจไม่ปลอดภัย เพราะรัฐบาลชุดนี้ปากกับใจไม่ตรงกันแทบทุกเรื่อง เห็น ๆ กันอยู่

ท้ายสุดขอให้คุณแม่สิมารักษ์ จงเข้มแข็งอดทนและเชื่อมั่นคนไทยไม่ทิ้งคนไทย กรรมดีจะส่งผลให้ครอบครัวคุณแม่พ้นวิบากกรมนี้ได้แน่นอน

ประชาชนทุกหย่อมหญ้าเดือดร้อนชักหน้าไม่ถึงหลัง ขอให้รัฐบาลเลิกสร้างภาพว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ซึ่งสวนกระแสความเป็นจริง อยากถามว่าโกหกไปทำไม ประชาชนเขาประสบเองว่าเศรษฐกิจย่ำแย่สวนกระแสกับการโกหกของรัฐบาลโดยสิ้นเชิง ถ้าว่างวันไหนหรือหยุดเกาะโพเดียมซักวันคงไม่ตาย ลงไปเดินชมตลาดดูสิ จะพบความจริงว่าข้อเท็จจริงเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นประชาชนเดือดร้อนจริงและหาทางแก้ไขเสีย ถ้าแก้ไขไม่ได้จงไปเสียเถิดให้คนอื่นที่มีความสามารถเข้ามาแก้ไขแทน

อีกอย่างเดินสำรวจตลาดมันเสียหายตรงไหน สมัยหาเสียงเห็นเดินไปแถบทุกตรอกซอกซอย มือไม้อ่อนไหวไปทั่ว พอเขาอุ้มขึ้นเป็นนายกหน่อย แหม...เยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อเลยนะพ่อคุณ ที่ไม่กล้าเดินชมตลาดเหมือนท่านทักษิณ เหมือนท่านสมัครเพราะกลัวถูกลอบสังหารตามที่ปุดข่าวว่าจะมีการลอบสังหารนายกโดยตั้งค่าหัวตั้งสิบล้านบาท สงสัยพูดเองเออเอง ถ้าเขาจะลอบสังหารจริง ป่านนี้ไปพบยมพบาลแล้วละครับ เสื้อกระสุนช่วยไม่ได้ดอก ถ้าเขาคิดจะลอบสังหารท่านนายกเขายิงที่หัวครับ ขนาดประธานธิบดีสหรัฐ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ การรักษาความปลอดภัยถึอว่าชั้นยอด กระสุนยังเจาะกระโหลกได้เลย คนไทยไม่ใจร้ายขนาดนั้นดอก ในประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เคยมีนายกไทยคนไหนถูกลอบสังหาร อย่ากังวลจนวิตกจริต อย่างมากก็แค่ชุมนุมขับไล่ก็เท่านั้นเอง

มีคำกล่าวเชิงกระแนะกระแหนว่า จำได้แม่นเวลาฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมน้อมนำกระแสพระราชดำรัสไปสู่การปฏิบัติ หลังจากนั้นก็ลืมสิ้น กรวุฒิเชื่อเช่นนั้น ไม่เชื่อก็คอยดูต่อไป เพื่อลบคำสบประมาทรีบดำเนินการดังนี้

1. ลบภาพคำว่ารัฐบาลโจร รัฐบาลภายใต้ท็อปบู๊ท รัฐบาลภายใต้การบงการของอำมาตย์ คืนอำนาจคืนความชอบธรรมให้กับประชาชนโดยยุบสภา เริ่มนับหนึ่งใหม่ แพ้ชนะอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

2. เลิกสองมาตรฐาน ดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดกฎหมายโดยเท่าเทียมกัน ทำให้ประจักรทีเถิด กรณีโจรก่อการร้ายยึดธรรมเนียบ ยึด NBT และยึดสนามบินปีกว่าแล้ว โจรก่อการร้ายยังลอยนวล แต่กับฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะคนเสื้อแดงรวดเร็วทันใจดีแท้

3. ปัญหาคอรัปชันในโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็ง อืดเป็นเรือเกลือรีบดำเนินการโดยไว คงได้ใจประชาชนโขทีเดียว

4. รีบสร้างความปรองดองของคนในชาติ สาเหตุเพราะอะไรกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ถ้าแกล้งเซ่อบอกให้ก็ได้ เพราะรัฐบาลขาดความชอบธรรม ปล้นอำนาจของประชาชน ประชาชนเขาเชื่อเช่นนั้นจึงถูกต่อต้านอย่างรุนแรง คืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างความปรองดองของคนในชาติ รีบตัดสินใจเสียยังไม่สายเกินไป

5. ที่ผ่านมา และภายภาคหน้าการทำงานของรัฐบาลทำด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่นหรือยัง แต่กรวุฒิว่ายังไม่ได้ทำซักอย่าง เพราะทุกโครงการมีค่าคอมมิชชั่นแทบทั้งสิ้น


ติติงอย่าความจำสั้น รีบน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเสียโดยเร็วเถิด

เพื่อลบภาพคำว่า รัฐบาลโจร รัฐบาลสีเขียวอุ้มสม หรือรัฐบาลภายใต้องค์การของอำมาตย์ จงยุบสภาสิ แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ภายใต้กฎกติกามารยาทของรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะไหน

ๆ ก็ไม่ยอมแก้ไขอยู่แล้ว ถ้ารัฐบาลชุดปัจจุบันชนะการเลือกตั้งก็ให้บริหารประเทศครบ 4 ปี จะรัฐบาลที่สง่างาม แต่ถ้าแพ้การเลือกตั้งจงยอมรับโดยดุษฎี ประเทศชาติจะได้กลับคืนสู่

ภาวะปกติเสียที เพราะประเทศชาติเสียโอกาสมาร่วม 4 ปีแล้ว ที่กรวุฒิว่ารัฐบาลชุดนี้พร้อมแล้ว เหตุผลดังนี้

1. สื่อกระแสหลักทุกสำนักเป็นของรัฐบาลหมดแล้ว ไม่ว่าจะบริโภคสื่อสำนักไหน แต่ละสำนักเชียร์รัฐบาลสุด ๆ (แต่ระวังจะเป็นแนวร่วมมุมกลับ "ยิ่งตียิ่งโต" พลังเงียบซุ้มดูอยู่ อาจจะ

เทคะแนนให้ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นได้ )

2. โพลทุกสำนักนำเสนอความนิยมของรัฐบาลเหนือคู่แข่งขันชนิดไม่เห็นฝุ่น

3. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรม รัฐบาลได้วางตัวบุคคลที่ไว้ใจได้ครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว ยกเว้นผบ.ตร. คงไม่กระทบกระเทือนมากนักดอกน่า

4. การเลือกตั้งอบต. , อบจ. เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว รัฐบาลกุมสภาพทั้งหมด น่าจะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วมิใช่หรือ

5. กระสุนดินดำพร้อมแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ห้ามปฏิเสธเพราะเป็นเรื่องจริง

แล้วใยรัฐบาลจะรีรอทำไม พร้อมทุกอย่างแล้วนี่ ยุบสภาเสียเถิด ปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าพวกเขาต้องการใครเป็นรัฐบาล อย่าดันทุรังอีกต่อไปเลย

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)