พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ยุติบทบาทโดยสิ้นเชิงปี 2525 และออกมารายงานเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย บางคนเดินเข้าสู่ถนนการเมืองเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติของสภาผู้แทนราษฎรเป็นรัฐมนตรีหลายท่าน และพระราชบัญญัติการกระทำอันเป็นคอมมิวนนิสต์ถูกยกเลิกไปตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าจำไม่ผิดท่านชวนหลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี (ขออภัยถ้าข้อมูลผิดพลาด) ทำไมคนไทยต้องจับอาวุธเข่นฆ่ากัน สาเหตุมาจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐแทบทั้งสิ้น กรวุฒิจะไม่ลงในรายละเอียด ใครอยากทราบสามารถศึกษาได้ในเอกสารที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน

ทำไมยุคนี้ต้องพูดถึงคอมมิวนิสต์ โดยเฉพาะกล่าวหาทำนองว่าพวกเสื้อแดงฝักใฝ่คอมมิวนิสต์บ้างหล่ะ เอียงซ้ายบ้างหล่ะ เพราะใช้สัญลักษณ์สีแดง "ชาวเสื้อแดงบอกว่าสีแดงคือชาติ คนใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้เขาบอกว่าเป็นแนวร่วมมุมกลับนะครับ" คนที่ใส่ร้ายพวกนี้เคยต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์หรือกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทยแทบทั้งสิ้น การกล่าวหาชาวเสื้อแดงอย่างนี้ไม่ยุติธรรมเลย ชาวเสื้อแดงเขาไม่ได้ใส่ใจเพราะเขามีจิตใจสูง มีวุฒิภาวะพอ มีความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหน้าไหนทั้งสิ้น โปรดรับรู้ไว้ด้วย

คนเสื้อแดงขยับจะชุมนุมในวันที่ 30 สิงหาคม 52 รัฐบาลเต้นเป็นเจ้าเข้า ลนลานประกาศพรบ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร 2511 ในพื้นที่เขตดุสิต อ้างว่าได้รับรายงานข่าวจะมีมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ทำให้เกิดการจลาจลได้ สั่งกำลังตรึงพื้นที่เต็มอัตรา พอเสื้อแดงพลิกเกมเลื่อนการชุมนุมออกไปเป็น 5 ก.ย. 52 และจะเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ ถ้ารัฐบาลขยายเวลาพรบ. ฯลฯ เล่นเอาเถิดกับรัฐบาล รัฐบาลเสียรางวัดไปหลายกิโลขีด เพราะการข่าวไร้ประสิทธิภาพ ข้อเท็จจริงการชุมนุมของเสื้อแดงไม่เคยพกพาอาวุธเข่นฆ่าใคร มีแต่ถูกรังแก เช่น การสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง มีคนเสื้อแดงบาดเจ็บหลายราย (การสูญเสียชีวิตนั้นไม่นานข้อเท็จจริงจะปรากฏ เพราะทหารใช้อาวุธจริง กระสุนจริงในการสลายการชุมนุม) ถูกตีแผ่ไปตามสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกแต่สื่อไทยปิดหูปิดตาประชาชนเสียฉิบ การสั่งการเข้าควบคุมการชุมนุมทุกครั้งจะอ้างความมั่นคงของรัฐ คำว่ารัฐหมายถึงประเทศชาติแต่ทุกวันนี้เป็นการรักษาความมั่นคงของรัฐบาล ความอยู่รอดของรัฐบาลมากกว่า ถ้าต้องการรักษาความมั่นคงของรัฐจริง ๆ โน่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่นายกคนนี้ละเลยไม่เคยไปดูดำดูดีประชาชนเหล่านั้น จะอ้างว่าได้มอบหมายให้รองนายกฝ่ายความมั่นคงแล้ว แต่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลรับผิดชอบประเทศชาติ ควรลงไปให้กำลังใจประชาชนบ้างสิ ทีเรื่องผบ.ตร.มอบให้รองนายกฝ่ายความมั่นคงกำกับดูแล นายกกลับล้วงลูกทำให้ขาดภาวะผู้นำ เข้าทำนองเรื่องที่ควรทำกลับไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำกลับทำ อย่างนี้ใช้ไม่ได้

เรื่องการข่าวเป็นนายกอย่าด่วนสรุปตัดสินใจ ต้องตรวจสอบความถูกต้องอย่างรอบด้าน อย่าหูเบาเชื่อคนง่าย โดยเฉพาะคนรอบข้างที่ด้อยประสบการณ์ ถ้าไม่เชื่อกรวุฒินายกจะเสื่อมศรัทธาเรื่อย ๆ และถูกขับไล่ในที่สุด ไม่เชื่อคอยดู

ในเมื่อนายกยอมรับว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงนายก สมุนทั้งหลายแม้แต่หมอผีการันตีว่าเป็นคลิปนี้เป็นการตัดต่อ แต่กรวุฒิตั้งข้อสังเกตดังนี้

ประการที่  1 การประชุมสั่งการเมื่อ 12 เม.ย. 52 ให้สลายม็อบเสื้อแดง หลังสลายแล้วเกิดบาดเจ็บล้มตาย ใครรับผิดชอบ ถ้านายกเป็นคนสั่งให้สลายม็อบนายกต้องรับผิดชอบ ลำพังทหารคงไม่ปฏิบัติการโดยพละการ ต้องมีคำสั่งเท่านั้นดังนั้นการประชุมสั่งการให้สลายม็อบคือนายกรัฐมนตรีสั่งการอย่างไร รายละเอียดการปฏิบัติอย่างไร ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ ถ้านายกไม่รับผิดชอบทหารคงไม่สลายม็อบเสื้อแดงใช่หรือไม่

ประการที่ 2 การประชุมสั่งการทุกครั้งต้องมีการบันทึกการประชุมเพื่อเป็นหลักฐานสำเนาแจกให้หน่วยรองนำไปปฏิบัติ หลายหน่วยงานยืนยันว่าคลิปมีการตัดต่อ กรวุฒิอาจยอมรับได้เป็นการตัดต่อ เพราะเสียงคลิปแค่ 3.41 นาที แต่เป็นการตัดต่อจากของจริง และของจริงอยู่ที่ไหน มีความยาวเท่าใด ? เพราะการประชุมสั่งการต้องมากกว่าครึ่งชั่วโมงขึ้นไป ครั้งต่อไปอาจปล่อยคลิปเสียงการประชุมโดยไม่มีการตัดต่อ เอาของจริงมาเปิดเผยจะ ๆ นายกอาจหน้าแตกก็เป็นได้

ประการที่ 3 ไม่ต้องแก้เกี้ยวผูกโยงไปถึงท่านนายกทักษิณดอก ท่านคงไม่ทำอะไรโง่ ๆ เช่นนี้ เชื่อกรวุฒิเถิด น่าเกลือเป็นหนอนมากกว่า จริงมะ

ประการสุดท้าย ถ้าคลิปเสียงนี้เป็นของจริงก็แสดงว่าท่านไม่เป็นที่ยอมรับของข้าราชการ เพราะเรื่องลับสุดยอดยังหลุดออกมาได้ อีกอย่างคำพูดที่ว่า "รัฐบาลรู้อะไร ประชาชนต้องรู้อย่างนั้น" วลีนี้พูดที่สหรัฐโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นรัฐบาลจะทำอะไร ประชาชนต้องรู้ เขาเลยเอาไปเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบก็ถูกต้องแล้วนี่

เรื่องคลิปที่เผยแพร่ตามสื่อโดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตเรื่องการสั่งการสลายม็อบสงกรานต์เลือด ถ้านายกฉุกคิดสักนิด ไม่จำเป็นต้องออกมาตอบโต้เรื่องอาจเป็นคลื่นกระทบฝั่งก็เป็นได้ จริงไม่จริงท่านนายกย่อมรู้อยู่แก่ใจ ปล่อยให้ขบวนกฎหมายจัดการก็สิ้นเรื่อง การบริโภคข่าวสารของประชาชนเขามีวิจารณญาณ,วิเคราะห์,สังเคราะห์ได้ว่าข่าวนี้เชื่อถือได้แค่ไหน กรวุฒิคิดว่างานนี้เป็นเกมการเมือง เพราะคนระดับนายกคงไม่อำมหิตสั่งฆ่าประชาชนได้จริงมะ พอนายกออกมาเล่นตามเกม สั่งการให้ปิดสื่อห้ามเผยแพร่และยังคาดโทษสื่ออีก จากคนที่ไม่รู้เรื่องกลับรู้เรื่อง ยิ่งปิดบังคนยิ่งอยากรู้ ยิ่งนายกบอกว่าเป็นเสียงท่านนายกคนยิ่งอยากรู้เพิ่มมากขึ้น กลายเป็นเรื่องบานปลายโดยใช่เหตุ

ขณะนี้เจอหน้าเพื่อนฟูงก็จะถามว่า "ได้ฟังคลิปหรือเปล่า", "ฟังแล้วเล่าให้ฟังหน่อยสิ", "นายกสั่งการอย่างไร?" เรื่องซุบซิบในประชาชนก็จะถามลักษณะนี้ เลยเถิดไปโน่น ถ้าเป็นจริงตามคลิป... นายกคนนี้อำมหิตจริง ๆ นะ แต่ถ้าไม่จริงก็แล้วไปเพราะประชาชนเขาไม่ค่อยอีนังขังขอบกับรัฐบาลชุดนี้เท่าไหร่เพราะเป็นรัฐบาลที่เข้ามาสู่อำนาจไม่สง่างามก็เท่านั้นเอง

ตามที่รัฐบาลประกาศใช้พรบ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ไม่ทราบว่าพรบ.ฉบับนี้ถูกต้องหรือไม่ แม้จะผ่านวาระที่ 3 ของสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง คือมีเพียง 115 คนจาก 250 คน ถ้าไม่ถึงกึ่งหนึ่งแสดงว่าเป็นพรบ.ที่ไม่ชอบใช่หรือไม่ กรวุฒิไม่ได้พูดเองแต่สื่อเป็นผู้นำเสนอ ถ้าพรบ.ไม่ชอบประกาศใช้ได้อย่างไร สงสัยจริง ๆ

ฝากถามรัฐบาลการออกพรบ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2551 ในพื้นที่เขตดุสิต ดังนี้
1. พรบ.ความมั่นคงฉบับนี้องค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นพรบ.ที่ชอบใช่หรือไม่ ถ้าใช่แล้วไป ถ้าไม่ใช่ประกาศใช้ได้อย่างไรสงสัยจัง
2. การชุมนุมตามมาตรา 63 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของประชาชนใช่หรือไม่ ถ้าใช่ทำไมรัฐบาลต้องออกมาขัดขวาง ระวังจะผิดรัฐธรรมนูญนะครับ
3. การประกาศพรบ.ความมั่นคง ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ เขาจะไม่ประกาศ เพราะทำให้เกิดผลเสียแก่ประเทศชาติ ทำให้บรรยากาศการลงทุนและการท่องเที่ยวเสียหาย ประเมินค่าไม่ได้ ใช่ไม่ใช่

ทางที่ดีปล่อยให้เสื้อแดงชุมนุมไปตามมาตรา 63 เถิด ถ้าเสื้อแดงชุมนุมไม่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องประกาศใช้พรบ.ความมั่นคง (ชึ่งไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่) สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนและชาวโลกโดยใช่เหตุ จริงมะ

ได้ติดตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชนซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ สภาวสุ เป็นประธานบอร์ดโครงการ พอโครงการมีปัญหาคอรัปชั่นท่านก็ชิงลาออก หลังจากนั้นนายประโภชฌ์ น้องชายลาออกตาม ทางพรรรคแก้เกี้ยวโดยแต่งตั้งคนของพรรคตรวจสอบแทนที่จะใช้คนกลาง ผลออกมาโยนให้เจ้าหน้าที่เป็นแพะรับไป ทำให้กรวุฒิโหนคิดไปถึงอดีตนายกรัฐมนตรีที่ผู้สื่อข่าวตั้งฉายา "ช่างทาสี" ช่างทาสีท่านนี้และที่อุ้มชูนายกคนปัจจุบัน เลยถึงบางอ้อ สำเนาจากช่างทาสีเลยพับผ่า! พยายามเหลือเกินจะทำดำให้เป็นขาว นอกจากนี้ท่านกอบศักดิ์ ฯ ยังวิ่งไปพบท่านคุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา เพื่อให้เป็นช่างทาสีทำดำให้เป็นขาว ซึ่งท่านคุณหญิง จารุวรรณ กำลังปวดหัวเรื่องของตัวท่านเองไม่รู้จะเป็นหมู่หรือจ่า เรื่องของท่านอยู่ที่ปปช.กระมังถ้าจำไม่ผิด นี่ก็เป็นคนกันเองเช่นกันท่านที่มีใจเป็นกลางลองหลับตานึกดูผลจะออกมาอย่างไร ถ้าบริสุทธิ์ผุดผ่องตั้งฉายาให้เป็น "ช่างทาสียกกำลังสอง" จริงไหมครับท่านผู้ชม

ฝากถึงนายกให้ตั้งกรรมการตรวจสอบโครงการพอเพียงโดยเอากรรมการที่เป็นกลางไม่ถึงเป็นอริกับพรรคของท่าน ผลจะออกมาเช่นเดียวกับคตส.ตรวจสอบนายกทักษิณหรือไม่ เพราะกรรมการคตส.ชุดนั้นเป็นอริกับนายกทักษิณทั้งสิ้น ประกอบด้วยนายแก้วสรร ฯ , คุณหญิงจารุวรรณ ฯ, นายนาม ฯ, นายสัก ฯ, ฯลฯ .. ลองดูไหมล่ะ ถ้าแน่จริง

จริงไม่จริง กรวุฒิจะสาธยายกรณีนายกประเทศนี้เมืองนี้ไร้หลักการ ไร้ภาวะผู้นำ ไร้จริยธรรม ไร้คุณธรรม ไม่ยึดถือประเพณีและธรรมเนียมปฏิบัติดังนี้

ประการที่ 1 เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรียึดหลักการกม.ตามมาตรา 172 หมวด 9 ว่าด้วยคณะรัฐมนตรี และรัฐธรรมนูญเด๊ะเลย แต่ไม่ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติให้พรรคเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าตั้งไม่ได้ให้เสียงอันดับถัดไปจัดตั้ง ซึ่งเขาปฏิบัติมาตั้งแต่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ท่านได้เป็นนายกเพราะมีบุคคลอื่นอุ้มขึ้นสู่ตำแหน่ง เขารู้ไปทั่วโลกแต่ท่านเป็นปลื้มที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีลักษณะนี้น่าเวทนาจริง ๆ
ประการที่ 2 การแต่งตั้งผบ.ตร. ยึดหลักกฎหมายว่าเป็นอำนาจนายกเสนอชื่อผบ.ตร. แต่ปปช.ไม่เห็นชอบตีตกไปทำให้ไร้ภาวะผู้นำ ความนิยมตกต่ำตามโพลสำรวจต่าง ๆ ไม่เชื่อยังดันทุรังจะตั้งอีก โฆษกพรรคออกมาโจมตีปปช.ว่าไม่มีสิทธิ์ยับยั้ง สาเหตุที่ยังดันทุรังเพราะเชื่อโพลสำรวจว่าความนิยมของท่านปะทีป ตันประเสริฐ ดีกว่าทุกท่านที่มีสิทธิ์ในการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นผบ.ตร. นอกจากนี้ยังกล่าวว่านายกคนก่อน ๆ ยังทำได้ ทำไมนายกคนปัจจุบันจะทำไม่ได้ ว่าไปโน่น
ประการที่ 3 โพลสำรวจนำเสนอว่าภาวะผู้นำนายกทักษิณ 54.41 % นายกอภิสิทธิ์ 49.38 % และความนิยมของประชาชนต่อนายก ฯ ทักษิณ 43.6 % นายก ฯ 39.8 % ผลสำรวจดังกล่าวแพ้นายกทักษิณ แสดงให้เห็นว่าความนิยมของนายกคนปัจจุบันตกต่ำและลดลงเรื่อย ๆ แล้วท่านจะอยู่ไปทำไม ยุบสภาและลาออกคืนอำนาจให้ประชาชนเสียเถิด ท่านนายกต้องยึดถือผลสำรวจนี้โดยเคร่งครัดสิ

ที่กล่าวมาข้างต้นนายกคนปัจจุบันเป็นคนไร้หลักการ ขาดจริยธรรม คุณธรรม ยึดถือผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ประเทศชาติและประชาชนเจ้าของประเทศจะอยู่ได้อย่างไร ว้าเหว่จริง ๆ


การโหวตผบ.ตร.ที่ผ่านมาห้าต่อสี่ไม่เอาประทีป ตันประเสริฐ ใครเป็นใครสื่อนำเสนอไปแล้ว เพราะเป็นการโหวตเปิดเผย ถ้านายกยืนยันเสนอประทีป ตันประเสริฐ อีกครั้งถ้ายังโหวตเหมือนเดินแล้วไป ถ้าผิดจากเดิมจงตราหน้าว่า ก.ต.ช. ชุดนี้ตอแหลเชื่อถือไม่ได้ และสมควรลาออกไปเพราะสร้างความอัปยศให้องค์กรตำรวจ ถ้าองค์กรตำรวจนิ่งเฉยไม่อือไม่หือ ปล่อยให้นักการเมืองขี่คอและประนามว่าองค์กรนี้เลวจริง นักการเมืองจึงเข้ามาจัดระเบียบให้มันน่าทุเรศสิ้นดี ในองค์กรตำรวจมีประมาณสามแสนคน ตำรวจดี ๆ เยอะแยะอยู่ในกรอบพวกท่านทนอยู่ได้อย่างไรออกมากอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจบางสิ

นักการเมืองนั้นหรือไม่อยู่ในสายตากรวุฒิ เพราะนักการเมืองทุกระดับคอรัปชั่นทั้งนั้น ลงทุนตั้งแต่การเลือกตั้ง ขณะนี้จะมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทั่วประเทศเงินสะพัดเท่าไหร่มีใครสนใจบ้าง เมื่อเข้ามาแล้วถอนทุนทุกระดับเมื่อเทียบกับองค์กรตำรวจจิบจ้อยมาก แต่อย่างไรก็ตามการคอรัปชั่นจะหนึ่งบาทหรือแสนล้านบาทมันก็คือการคอรัปชั่นนั่นเอง สาเหตุหรือเปล่า คือ เขาซื้อเสียงเข้ามาเมื่อเป็นแล้วเขาไม่สนใจประชาชนเพราะเขาพูดได้เต็มปากว่า "เขาซื้อเสียงเข้ามา" ใครรับเงินเขาจงน้อมรับโดยดุษฎี แต่ถ้าใครไม่รับเงินนักการเมืองจงออกมาต่อต้านโดยพร้อมเพรียงกันเพื่อนำประชาธิปไตยบริสุทธิ์สู่ประเทศชาติโดยเร็ว สำหรับข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรม ไม่อือไม่หือเพราะคอยรับใช้นักการเมืองเพื่อความเจริญในชีวิตราชการ จงปล่อยเขาไป ปล่อยให้เป็นขี้ข้านักการเมืองตลอดไป

ตามหน้าสื่อกรณีนายกโดนหักหน้าการแต่งตั้งผบ.ตร.จนต้องสั่งยุติการประชุมและเลื่อนไปไม่มีกำหนด เหตุการณ์ครั้งนี้สื่อบอกว่าเป็นการ "ปฏิวัติเงียบ" ใช่ ไม่ใช่กรวุฒิไม่ฟันธงเพราะเตือนไปหลายครั้งแล้ว นายกขณะนี้กำลังเมาหมัดวิ่งหาตัวช่วยเป็นพัลวัน จะเป็นหมู่หรือจ่าไม่นานเกินรอ ทางที่ดีแต่งตั้งผู้อาวุโสอันดับหนึ่งถูกต้องที่สุด ได้ใจชาวตำรวจบานตะเกียงเพราะตำรวจดี ๆ มีเยอะและรักความยุติธรรม ผบ.ตร.เป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกกลัวทำไม แต่งตั้งมาแล้วไม่สนองนโยบาย (นโยบายถูกต้องตามกฎหมาย) นายกสามารถปลดได้ทันทีใยต้องกังวลใช่ไม่ใช่

การปฏิวัติตามประวัติศาสตร์ชาติไทยมี 10 ครั้ง กบฏ "คือยึดอำนาจไม่สำเร็จ 12 ครั้ง ส่วนการปฏิวัติที่ถือว่าเป็นการปฏิวัติเงียบ หรือปฏิวัติตัวเอง 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 5 และครั้งที่ 6 สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ถูกปฏิวัติหนึ่งครั้ง คือ ครั้งที่ 7 สมัยนายกรัฐมนตรีเสนีย์ ปราโมทย์ เมื่อ 6 ต.ค. 2519 ส่วนการสิ้นอำนาจของรัฐบาลโดยไม่มีการปฏิวัติ 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ 8 เม.ย. 2491 - นายก ควง อภัยวงศ์ ถูกจี้บังคับให้ลาออกจากตำแหน่งภายใน 24 ชม. ครั้งที่สอง 14 ต.ค. 2516 วันมหาวิปโยค จอมพลถนอม กิติขจร เป็นนายกรัฐมนตรีต้องลาออก และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 7-21 พ.ค. 2535 เรียกว่าพฤษภาทมิน ยุครัฐบาล ผอ.สุจินดา คราประยูร ซึ่งจำเป็นต้องลาออกเช่นกัน

ที่กรวุฒินำเสนอเรื่องการปฏิวัติดังที่กล่าวข้างต้น เพราะมีกลิ่นตุ ๆ ว่าจะเอาอีกแล้ว ที่ผ่านมาเมื่อ 19 ก.ย. 49 ประเทศชาติเสียหาย ประเมินค่ามิได้แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ สงสารประเทศชาติบ้างเถิด!

เตือนแล้วไม่เชื่อ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ระดับนายกดูแลกระทรวงว่าจะเอาใครมานั่งเป็นรัฐมนตรีแค่นี้ก็พอแล้ว ต่ำลงไปปล่อยให้ปลัดกระทรวงเขาว่าไป พอนายกไปล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายผบ.ตร. ผลออกมาได้ไม่คุ้มเสีย ทำให้ภาวะผู้นำของนายกลดลงไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป องค์กรตำรวจโดยประเพณีปฏิบัติถ้าผบ.ตร.คนปัจจุบันเกษียณอายุราชการ ผบ.ตร.ก็จะพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วยเพื่อเป็นผบ.ตร. เสนอให้ กตช. พิจารณา ที่ผ่านมาเขาจะเสนอรองอวุโสอันดับหนึ่งอย่างน้อยควรมีอายุราชการสองปีก่อนเกษียณ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง ถ้าเสนอผู้ที่เหลืออายุราชการหนึ่งปีก็ไม่ต้องทำอะไรแค่ตรวจเยี่ยมหน่วย มอบนโยบาย และอำลาหน่วย จะมีเวลาซักกี่เดือนทำงานเพื่อหน่วย แต่นี่ท่านนายกไปมัดมือชก เสนอคนเดียวและอายุราชการเหลือหนึ่งปี กตช.เขาไม่เอาด้วยแล้วเป็นไง หน้าเหลือสองนิ้ว เสียรังวัดไปหลายกิโลขีด ถ้านายกยังดันทุรังอีกความน่าเชื่อถือของภาวะผู้นำไม่เหลืออีกต่อไป จิ้งจกทักฟังบ้างเถิดคร้าบ เจตนาต่าง ๆ ที่ไปล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเพื่อหวังผลทางการเมืองประชาชนเขารู้ทัน ประชาชนเขาจะเลือกพรรคไหนมาเป็นรัฐบาลอยู่ที่นโยบายของพรรคต่างหากมิใช่หรือ บทเรียนที่ผ่านมา คมช. , กอ.รมณ. อุ้มเต็มที่ยังแพ้พรรคพลังประชาชนเลย ถ้าอยากชนะการเลือกตั้งควรนำความยุติธรรม จริยธรรม คืนสู่ประเทศชาติและประชาชน อย่าสร้างศัตรูรายวัน แต่กรวุฒิคิดว่า ช้าไปแล้วเพราะทุกวันนี้ประชาชนเขาหมดหวังในรัฐบาลและคงไม่ให้โอกาสอีกต่อไป

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงประจำปีนี้ รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างความแตกแยกเกือบทุกกระทรวงทบวงกรม เข้าข่ายใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแทรงข้าราชการประจำ ถ้าไม่ใช่เด็กของกู พวกของกู...หลีกไป นอกจากแทรกแทรงการแต่งตั้งโยกย้าย ไร้จริยธรรม คุณธรรมโดยสิ้นเชิง ไม่คำนึงถึงระบบอาวุโส และหน้าตาเฉยว่า "สมัยรัฐบาลของคุณทำไมคุณทำได้ สมัยผมผมต้องทำได้เช่นกัน" อย่าโวยวายให้เสียเวลา คิดแล้วน่าสมเพชเวทนาสิ้นดี แทนที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้สิ้นไป นำระบบคุณธรรม จริยธรรม กลับสู่ระบบราชการ แต่กลับตีฝีปาก "คุณทำได้ผมต้องทำได้" ตราบใดที่ข้าราชการยังยอมอยู่ใต้การกดขี่ข่มเหงของนักการเมืองเฮงซวยประเภทนี้ ตราบนั้นข้าราชการที่ไม่มีเส้นมีสายก็ไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในชีวิตราชการแน่นอน พวกท่านจะยอมให้ "นักเลือกตั้ง" ขี่คอพวกท่านชั่วนาตาปีอย่างนั้นหรือ ความจริง นักเลือกตั้ง พวกนี้ต้องเข้ามารับใช้พวกท่านและประชาชนมิใช่หรือ จึงอยากให้พวกท่านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมครั้งนี้ใช้ศาลปกครองให้เป็นประโยชน์ ถ้าพวกท่านไม่สามารถพึ่งพาศาลปกครองได้ ประเทศชาติต้องอยู่ในยุคมืดเช่นนี้ตลอดไป ใช่ไม่ใช่?

หลังคนเสื้อแดงถวายฎีกาเมื่อ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงเขาหยุดแล้ว แต่ทำไมรัฐบาลยังไม่หยุด...ให้สื่อภายใต้การควบคุมของรัฐ ดาหน้าออกมาโจมตีคนเสื้อแดงต่าง ๆ นา ๆ ถ้าฉลาดหน่อยน่าจะอยู่เฉย ๆ คอยฟังพระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน ที่ดิ้นทุกวันนี้เพราะก้าวผิด ทำอย่างไรจะพ้นบ่วงกรรมนี้ ยิ่งดิ้นบ่วงยิ่งรัดคอ สายไปแล้วต๋อย รัฐบาลมั่นใจว่าคนเสื้อแดงไม่สามารถยื่นถวายฎีกาได้เพราะผิดขั้นตอนของกฎหมาย แต่เมื่อเลขาสำนักพระราชวังให้คนเสื้อแดงถวายฎีกาได้ เท่านั้นแหละรัฐบาลหน้าเหลือสองนิ้วจะหันหน้าไปทางไหนคงถูกตราหน้าว่าเป็นรัฐบาลจอมตอแหล เชื่อถือไม่ได้ กรวุฒิชี้แนะทางที่ดี ท"ไปเสียเถิด" คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะประชาชนคือนายของพวกคุณ ไม่ใช่คุณเป็นนายของพวกเขา และประชาชนไม่ใช่ ไพร่อุปถัมภ์ ของพวกคุณจริงมะ?

เรื่องเล็ก ๆ อย่าไปยุ่งให้เสียรางวัดนายกเลย เห็นมั้ย พอผบ.ตร.ตัวจริงกลับรักษาการก็หมดอำนาจโดยอัตโนมัติไม่ทราบท่านนายกเสือกไสไล่ส่งไปไหนอีก ถ้ายังไม่ละความพยายามเพื่อเอาชนะคะคาน ก็เจตนารังแกข้าราชการ พฤติกรรมเช่นนี้เขาข่าย "ทำให้แตกแยกแล้วปกครอง" ผิดหลักการบริหารโดยสิ้นเชิง ท่านทำให้ประชาชนแตกแยก ยังไม่พออีกหรือ อย่าลืมข้าราชการประจำเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อให้การบริหารของรัฐเดินหน้าไปได้ ถ้าตัวขับเคลื่อนไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกรังแก ผลเสียจะตกอยู่กับรัฐบาลเสียเอง อีกอย่างคนใกล้ชิดนายกขยันสร้างศัตรูไม่เว้นแต่ละวัน คงถอดแบบมาจากตัวนายกแน่ ๆ จริงมะ

อาจารย์จุฬา ฯ โต้โผใหญ่นำบุคคลากรของมหาวิทยาลัย ออกมาต่อต้านการยื่นถวายฎีกาของคนเสื้อแดง พึ่งตื่นหรือไง ? ความรู้สึกช้าจัง เขาเรียกว่าออกมาผิดที่ผิดทาง กรวุฒิอยากถามตรงไปตรงมาดังนี้
1. กรณีกลุ่มพันธมิตร โดยสนธิ ลิ้มทองกุล เอาโกเต็กเปื้อนประจำเดือนไปวางไว้ที่ฐานพระบรมรูปทรงม้า พวกท่านไปมุดหัวอยู่ที่ไหน อย่าลืมว่ารัชการที่่ 5 ก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมิใช่หรือ
2. อยากเรียนถามอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าทำไมไม่วางตัวเป็นกลางทางการเมือง และพิพากษาคนเสื้อแดง ทำผิดขั้นตอนและออกคัดค้านการยื่นถวายฎีกาเพราะไปทำให้ระคายเบื้องพระคลยุบาท กรวุฒิอยากเรียนถามว่าท่านอาจารย์ทราบได้อย่างไรว่าไประคายเคือง ฯ คิดเองเออเองกระมัง ให้คนเสื้อแดงถวายฎีกาไปเถิด แล้วแต่พระบรมราชวินิจฉัยของพระองค์ท่าน คนเสื้อแดงน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมโดยดุษฎีอยู่แล้ว อย่าไปสู่รู้เสียทุกอย่าง อายลูกศิษธิ์เขาจะหัวเราะเยาะเอา ปิ้ว ๆ

การที่ข้าราชการ ส่วนราชการออกมาคัดค้านการยื่นถวายฎีกาของคนเสื้อแดงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าในที่ 17 สิงหาคมนี้ว่าไม่ถูกต้อง
โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงของกระทรวงคือปลัดกระทรวง การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเข้าข่ายวางตนไม่เป็นกลางทางการเมืองหรือไม่ กรวุฒิอ่านมาตรา 74 ของรัฐธรรมนูญปี 50 อ่านหลาย ๆ เที่ยวสรุปข้าราชการวางตนเป็นกลางทางการเมือง กรวุฒิความรู้น้อยอาจตีความเจตนารมณ์ของมาตรา 74 ผิดก็เป็นได้ อยากให้ผู้รู้อธิบายให้กรวุฒิและประชาชนเสื้อแดงหายข้องใจทีเถิด แต่ถ้าข้าราชการไม่วางตนเป็นกลางตามมาตรา 74 ดังกล่าวจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้ากรวุฒิตีความเจตนารมณ์มาตรา 74 ผิด ก็ข้อน้อมรับผิดโดยดุษฎี ตามที่ได้ออกตัวไว้แล้วว่าความรู้น้อย

คนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีประโคมข่าวการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายวันมีเงินสะพัดนับพันล้านบาทจริงไม่จริง ทำไมคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีไม่เปิดเผยข้อมูลปล่อยให้สาธารณะกังขา ถ้าเป็นเรื่องจริงสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปเต็ม ๆ แต่ถ้าไม่จริงคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีรับไปแล้วกัน และเข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสีตำรวจ กรวุฒิคิดว่าคงจริงตามหน้าสื่อที่นำเสนอปิดปากไม่ได้รับการตอบสนองใช่หรือไม่ ในวงราชการบ้านนี้เมืองนี้ ส่องโฟกัสลงไปทุกกระทรวงทบวงกรม อาจเจออะไรดีก็ได้หรือมิใช่เป้าหมายที่จะเหยียบย่ำ?

เรื่องการซื้อขายตำแหน่ง ถามกลับไปที่นักการเมืองว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในการเลือกตั้งทุกระดับเป็นการซื้อตำแหน่งหรือไม่ การซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพราะต้องการตำแหน่งเป็นนักการเมืองมิใช่หรือ (ต้องขออภัยนักการเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม มา ณ โอกาสนี้ด้วย) แทบทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งระดับชาติมีการรายงานข่าวว่าเงินสะพัดเป็นหมื่น ๆ ล้าน มีหน้าเมืองหน้าไหนจะปฏิเสธได้ เชิญเรียงหน้าออกมาเพราะเลือกตั้งทุกครั้งจะมีนักการเมืองโดนใบเหลืองใบแดงทุกครั้งเพราะข้อหาอมตะ ทุจริตการเลือกตั้ง ฝากผู้มีส่วนร่วม จงไตร่ตรองให้จงหนัก ก่อนจะหาว่าคนอื่นชั่วและฝากไปถึงตำรวจทุกคน ศักดิ์ศรีตำรวจไทยอยู่ตรงไหนทำไมปล่อยให้นักการเมืองฉ้อฉลโขกสับย่ำยีขนาดนี้มีอำนาจอยู่ในมือทั้งกฎหมายและอาวุธแท้ พับผ่าสิ

พฤติกรรม ณ เวลานี้ของรัฐบาลคงเป็นเช่นนี้จริง เพราะแต่ละเรื่องที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่างานหลวงสร้างความแตกแยกไม่มีที่สิ้นสุด อย่างเดียวที่ต้องการคือ ต้องสนองตัณหาของรัฐบาลให้ได้ ไม่ว่าเรื่องเหล่านี้จะขาดคุณธรรม จริยธรรมก็ตาม กล่าวคือ

1. เรื่องโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับต่ำกว่ากองบัญชาการ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการเขาเถิด รัฐบาลไปล้วงลูกให้เสียรังวัดทำไม การเลงผลเลิศจนเกินไป อาจได้ไม่คุ้มเสีย ในสายตากรวุฒิเป็นเรื่องขี้ประติ๋ว ปล่อยเด็ก ๆ เขาเถิดให้นึกถึงสมัยคุณจัดตั้งครม.ครั้งแรก เห็นวิ่งแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีเหมือน ... แย่งกระดูก ทะเลาะเบาะแว้งพรรคแทบแตกมิใช่หรือ
2. เรื่องการถวายฎีกาของประชาชนเพื่อร้องทุกข์ เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมปล่อยเขาไปเถิด ผลจะออกมาอย่างไรอยู่ที่พระองค์ท่าน ถ้ารัฐบาลฉลาดน่าจะอยู่เฉย ๆ ยิ่งรัฐบาลไปต่อต้านโดยผ่านทางกระทรวงมหาดไทย ยิ่งเป็นการสร้างแนวร่วมมุมกลับ เหนื่อยเปล่า เรื่องเล็กประโคมข่าวให้เป็นเรื่องใหญ่เกินเหตุ ผับผ่า
3. เรื่องที่ควรทำคือเรื่องปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่่ท่านคุยนักคุยหนา เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ เหตุการณ์จะสงบเป็นมาแปดเดือนย่างเข้าเดือนที่เก้าไม่เห็นหัวนายกรัฐมนตรีโทรไปให้ประชาชนอุ่นใจเลย อย่าทำเล่นไปน่า เสียดินแดนให้เขาจริง ๆ นะ อย่าหาว่ากรวุฒิไม่เตือน
4. นอกจากนี้เรื่องใหญ่ ๆ ที่รัฐบาลชอบปฏิเสธ ขาดความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา คือความทุกข์ยากของประชาชน ปัญหาคอรัปชันเชิงนโยบาย ความอยุติธรรมและเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหัวคูณ ซื้อเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่เกิดประโยชน์อันใด

เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด เรื่องที่ควรทำกลับไม่ทำ เรื่องที่ไม่ควรทำกลับทำ เสียดายเวลาที่ผ่านมาจริง ๆ นะ

สรรเสริญเยินยอเกินเหตุ ว่านายกเราเทียบเท่าโอบาม่า ไม่นานเกินรอความนิยมในตัวผู้นำเริ่มเสื่อมลง จากการสำรวจความนิยมของประชาชนลดลงเหลือประมาณ 50% สำหรับประเทศสหรัฐเว้นไว้ เพราะอยู่ไกลตัว หันมาดูนายกบ้านเราเป็นนายกใหม่ถอดด้าม ความนิยมเหนือท่านนายกทักษิณแต่การสำรวจครั้งสุดท้าย ความนิยมต่ำกว่านายกทักษิณน่าใจหาย สาเหตุเกิดแต่สนิมเนื้อในโดยแท้ เมื่อความนิยมเสื่อมลงการที่จะกลับมาเป็นที่นิยมของประชาชนริบหรี่ มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ สืบเนื่องมาจากนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้นอย่าโทษใคร อย่าโทษฝ่ายค้าย อย่าโทษประชาชน สาเหตุของความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีมีสาเหตุใหญ่ ๆ ดังนี้

1. ประชาชนให้โอกาส ประชาชนมีความหวัง แม้นายกคนนี้เขามาไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ตามกฎกติกา เป็นนายกเสียงข้างน้อย แต่นายกคนนี้ทิ้งโอกาสนั้นเสียเพราะต้องอยู่ภายใต้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญและมือที่มองไม่เห็นใช่หรือไม่
2. นโยบายที่ประกาศต่อสาธรารณะชนทำไม่ได้ เช่น 99 วันทำได้ , ไม่เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ฯลฯ
3. การคอรัปชันที่เห็นตำตา คือ โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับชุมชน พยายามโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ พยายามตัดตอนไม่ให้ถึงตัวรัฐบาลและอ้างว่าการคอรัปชันมีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่การคอรัปชันไม่ว่ามากหรือน้อยก็คือการคอรัปชันนั่นเอง
4. ผลักมิตรให้เป็นศัตรู ไม่ว่าประชาชนที่เห็นต่าง หรือข้าราชการประจำ และคนรอบข้างสร้างศัตรูรายวันเป็นต้น
5. การสร้างหนี้สาธารณะโดยการกู้ กู้ แต่ไม่บอกวิธีใช้หนี้เงินกู้อย่างไร ถ้ารัฐบาลไปแล้วทิ้งภาระให้กับประชาชนมันน่าทุเรศสิ้นดี
6. ทีสำคัญคือ ความอยุติธรรมซึ่งแพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้าของประเทศ ยากที่จะเยียวยา ดังนั้น คืนอำนาจให้กับประชาชนเสียเถิด อาจได้รับการอภัยจากประชาชน แต่ถ้ายังดื้อดึง ดื้อตาใส คิดว่าไม่มีใครโค่นอำนาจตัวเองได้ เชิญตามสบายครับ

ยิ่งดิ้นเพื่อเอาชนะคะค้าน ยิ่งเปิดหน้าให้คู่ต่อสู้ชก ถูกน็อคไม่รู้น่า กลายเป็นมวยเมาหมัด หมดอนาคตก่อนวัยอันควร เรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณจะไปรู้ดีกว่าเขาได้อย่างไร รัฐบาลคุณเพิ่งถูกอุ้มเข้ามาไปรู้ลึกตื้นหนาบางเขาได้อย่างไร ถ้าฉลาดเฉยไว้จะดีกว่า ถ้าหวังผลเลิศจะเอาคนของตนไปคุมพื้นที่หวังเลือกตั้งคิดผิดถนัด บทเรียนที่ผ่านมาคมช.อุ้มพรรคคุณเต็มที่ พรรคพลังประชาชนยังชนะเฉยเลย นับประสาอะไร ณ นาทีนี้เลือกตั้งเดี๋ยวนี้ พรรคคุณแพ้ตั้งแต่ในมุ้งล้านเปอร์เซ็นต์พันธง ความรับผิดชอบทุกเรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไว้หาพระแสงอะไร ถ้าอยากควบคุมสำนักงานตำรวจแห่งเบ็ดเสร็จจะไปยากอะไร เป็นนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกตำแหน่งไม่ดีกว่าหรือ แต่ถ้ากล้าทำจริงเปรียบเป็นผู้บังคับกองพัน แต่ทำตัวเป็นจ่ากองร้อย หรือหัวหน้าสำนักงานแต่ทำตัวเป็นเสมียน น่าจะปล่อยให้เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่ดีกว่ารึ ประชาชีเขาจะหัวเราะเยาะเอา จริงมะ

คดีกล้ายาง 19 ล้านต้น น่าจับตามอง รอดไม่รอด สำหรับห้อยร้อยยี่สิบ พูดถึงเจ้าคนนี้ เกี่ยวข้องทุกเรื่อง เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชัน และสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเช่นกรณีที่พัทยาใส่ชุดสีน้ำเงิน สวมหมวกนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์สั่งการ กรวุฒิไม่อยากฟันธงว่า รอด - ไม่รอด ถ้าไม่รอดรัฐบาลนี้พังทันที แต่ถ้ารอดรัฐบาลหายใจไปอีกเฮือกหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องจับตามอง ห้ามกระพริบตา ถ้ารอดฟันธงได้เลยว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่น่าอยู่อีกต่อไป ทำให้หวนคิดไปถึงอดีต เหตุเกิดที่บ้านนาบัว อำเภอเรณูนคร จ.นครพนม (วันเสียงปืนแตก) ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกรังแก ใส่ร้ายป้ายสี เลยลุกขึ้นมาจับอาวุธต่อสู้อำนาจรัฐ กรวุฒิไม่อยากให้หวนกลับมาอีกเลย เพราะนั่นคนไทยเข่นฆ่าคนไทย บ้านแตกสาแหลกขาด กว่าจะยุติลงได้สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินไปเท่าไหร่ หวังลึก ๆ ความยุติธรรมคงเกิดขึ้นแน่นอน แต่ถ้าไม่เกิดก็เวรกรรมของบ้านนี้เมืองนี้แล้วกัน

นายกอุ้มตั้ง พยายามก้าวพ้นจากบ่วงสีเขียวที่คล้องคอ เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะอยู่ในโอวาทและเป็นเด็กดี แค่ขยับจะเอาบ่วงออกจากคอ เขาส่งสัญญาณกระตุกเชือกเบา ๆ ก็หงอเป็นกุ้ง ขี้ขึ้นสมอง โสหน้าน่า นี่แหละหนาอยู่ดีไม่ว่าเอาบ่วงมาคล้องคอ เพราะอยากมีอำนาจแต่ไม่ยึดกติกา เข้าตามตรอกออกตามประตู ผลที่ตามมา ได้ไม่คุ้มเสีย น่าเสียดายจริง ๆ คำพูดของนายกสมัคร ยังก้องอยู่ในหู "มะม่วงจำบ่ม" "มะม่วงบ่มแก็ส" ถูกต้องที่สุด ถ้าฉุกคิดสักนิด อดเปรี้ยวไว้กินหวานน่าจะดีกว่า สั่งสมบารมีครองใจประชาชนโดยเอานโยบายที่ดีกว่าของนายกทักษิณนำเสนอประชาชน นำความยุติธรรมคืนสู่ประเทศชาติและประชาชน หยุดป้ายสีให้คนอื่น เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คืนความเป็นผู้นำกลับสู่ตนเอง อย่าให้ลิ่วล้อปากสวะชี้นำ และบ่มเพาะศัตรู

ถ้าจะปลดบ่วงออกจากคอ บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นจงยุบสภา เริ่มนับหนึ่งใหม่ คืนความชอบธรรมให้กับประชาชน ถ้าพรรคของท่านชนะเลือกตั้ง ท่านจะเป็นนายกที่สง่างาม แต่ถ้าแพ้การเลือกตั้ง จงน้อมรับโดยดุษฎี อีกสี่ปีนำนโยบายที่ดีกว่าเสนอประชาชนแพ้ชนะอยู่ที่นโยบาย ไม่ใช่อำนาจเงินที่พรรคคุณกล่าวอ้าง จริงมะ
    


1. ร่วมมือกับสีเขียวเพื่อก้าวขึ้นสู่นายกรัฐมนตรีอย่างน้อยสามครั้ง ครั้งสุดท้ายก็รัฐบาลปัจจุบัน สองครั้งที่ผ่านมา ได้โอกาสบริหารประเทศ แต่การบริหารล้มเหลวถูกสีเขียวบีบบังคับให้ลงจากตำแหน่ง ครั้งนี้ ปัจจุบันนี้ไม่แน่นะครับ อาจถูกบีบลงจากตำแหน่งก็เป็นได้ เข้าอีหรอบเดิมการบริหารล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เห็นได้จากการแถลงผลงานรอบหกเดือน ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศผิดหวังอย่างแรง และคงไม่เปิดโอกาสให้อีกต่อไปแล้ว
2. สมัยนายกชวนหลีกภัย (นายกสมัยที่สอง) การแต่งตั้งผบ.ทบ.ก็ไปคว้าคนที่ไม่อยู่ในตำแหน่งห้าเสือทบ.มาเป็นผบ.ทบ. ผิดทำเนียมปฏิบัติ เป็นรายการ"คุณขอมา" ปัจจุบันนี้การแต่งตั้งรักษาการณ์ผบ.ตร. ก็ไปคว้าคนนอกมารักษาการณ์น่าตาเฉย ผิดธรรมเนียมปฏิบัติเช่นกัน ต่างลุแก่อำนาจ คงไม่โชคดีเสมอไป ระวังมันจะย้อนกลับมาสนองอย่างสาสมนะครับ

ที่จั่วหัวไว้เช่นนี้กลัวท่านนายกเสียงข้างน้อยลุแกอำนาจจนเกินเหตุ เดียวตกม้าตายจะหาว่ากรวุฒิไม่เตือน
มาตรา   266     รัฐธรรมนูญปี50  วรรค 2   ห้ามไว้เกี่ยวกับโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการ
มาตรา   268    นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจะกระทำการใดที่บัญญัติไว้ในมาตรา       ไม่ได้ เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
หรือตามที่กฏหมายบัญญัติ  แม้ว่าในมาตรา  268 วรรคท้าย จะเปิดช่องให้ก็ไม่ควรกระทำเพราะ ผบ.ตร. เป็นข้าราชการประจำ กว่าจะก้าวสู่ตำแหน่งนี้ได้ใช้เวลากว่าค่อนชีวิต
ไม่เหมือนพวกนักการเมืองเดียวมาเดียวไป  อย่ารังแกพวกเขามากนัก โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจ เขามีกฏหมายและอาวุธอยู่ในมือ มีพรรคพวก มีญาติพี่น้อง (น้องผมผิดอะไร) เสียงคำรามจากพี่ชาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในอดีตนายกสฤษถิ์  ธนะรัตน์ มีอำนาจล้นฟ้า แต่ยังถามที่ปรึกษาว่าเป็นนายกแล้วเป็นอะไรอีกถึงจะไม่ถูกจับ ที่ปรึกษาตอบว่าเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยครับ
(สมัยก่อนกรมตำรวจขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย) ท่านนายกสฤษถิ์  ธนะรัตน์ จึงควบตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยอีกตำแหน่งหนึ่ง  เป็นอริกับคนเสื้อแดงและท่านนายกทักษิณพอแล้ว
อย่าเป็นศัตรูกับข้าราชการประจำ ข้าราชการประจำอยู่ใกล้ชิดรัฐบาล นำนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ ถ้าข้าราชการประจำอารยขัดขืน ระวังรัฐบาลเป็นอัมพาตนะครับ
ได้ไม่คุ้มเสียเตือนด้วยความหวังดี

ตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่ประชาชนส่วนใหญ่จงเกลียดจงชังมากมายเป็นประวัติการณ์เท่ากับนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เป็นนายกของประเทศที่มีอำนาจสูงสุด แต่ไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัดไม่ได้ ถ้าจะไปต้องใช้กำลังคุ้มกันมากมายมหาศาล สาเหตุที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจงเกลียดจงชังเพราะ ท่านไม่มีความยุติธรรม เข้าสู่ตำแหน่งนายกไม่สง่างาม สองอย่างดังกล่าวประชาชนเขารู้ เขาดู เขาเห็น อีกอย่าง รัฐบาลของท่านไล่ล่านายกทักษิณซึ่งเป็นนายกในดวงใจของชาวรากหญ้า ยิ่งไล่ล่าชาวรากหญ้ายิ่งสงสาร พร้อมกับจงเกลียดจงชังรัฐบาลของท่านมากเท่าพันทวี นอกจากนี้ท่านยังปิดกั้นสื่อที่ยืนอยู่ตรงข้ามรัฐบาลไม่ว่าโทรทัศน์ วิทยุชุมชน เป็นการปิดหูปิดตาประชาชน โดยให้รัฐมนตรีเตี้ยหมาตื่นขมขู่สื่อเหล่านั้น ยิ่งปิดกั้นสื่อ ประชาชนยิ่งอยากรู้ ทางที่ดี ให้อิสระในการบริโภคสื่อ ประชาชนเขามีวิจารณญาณในการบริโภคสื่อ จะถูกจะผิดประชาชนเขาแยกแยะได้

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่ว่าความไม่ยุติธรรม ความไม่สง่างามเข้าสู่ตำแหน่ง การไล่ล่านายกทักษิณขวัญใจชาวรากหญ้า ปิดกั้นสื่อ ปิดหูปิดตาประชาชน ล้วนเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจงเกลียดจงชังนายกคนนี้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและอย่าได้เอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

วิบากกรรมที่รัฐบาลเผชิญอยู่ขณะนี้เกิดขึ้นเพราะตัวรัฐบาลเองทั้งสิ้น อย่าโทษโน่นโทษนี่เลย ถ้าดวงตาเห็นธรรมจริง จงหยุดพฤติกรรมที่จะทำทั้งหมดเสียสิ้น แต่ถ้าดวงตามองไม่เห็นธรรมจงมีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไปเถิด อวสานจะตามมาในไม่ช้านี้ พฤติกรรมเช่นว่านี้มีอะไรบ้างจะเจียรไนให้ฟังดังนี้

1. ร่วมมือกับพันธมิตร (มีสส.ของพรรคร่วมกันเคลื่อนไหว) ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 19 ก.ย. 49
2. ร่วมมือกับพันธมิตรยึดธรรมเนียบรัฐบาล ยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ยึดสนามบินดอนเมือง และสนามสุวรรณภูมิ ถูกต้องข้อหาผู้ก่อการร้าย แต่เมื่อเป็นรัฐบาลกลับแต่งตั้งคุณกษิต ฯ เป็นรัฐมนตรีเพื่อไล่ล่าท่านอดีตนายกทักษิณ ซึ่งเป็นนายกของประชาชน
3. ร่วมมือกับทหาร / พวกเนรคุณนายกทักษิณ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และบอกว่ามีความชอบธรรม แต่ต่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยยอมรับไม่ได้
4. เมื่อเป็นรัฐบาลสั่งฆ่าประชาชนกรณีสงกรานต์เลือด อย่าปฏิเสธเลย คุณเอาศพไปทิ้งที่ไหน รู้นะ ไปทางลพบุรีจริงไหม
5. ประชาชนร้องทุกข์ ถวายฏีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องจากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารของรัฐบาล แต่ถูกกีดกันไม่ให้ความทุกข์ร้อนของประชาชนทราบถึงพระเนตร์พระกรรณ์ของพระองค์ท่าน จงหยุดพฤติกรรมเช่นนี้เถิด
6. จากข้อ 5 น่าจะเป็นการล่วงเกล้าพระราชอำนาจของพระองค์ท่านหรือไม่ เพราะมาตรา 191 ตามรัฐธรรมนูญปี 50 กล่าวไว้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ จริงไหม หากใครก็ตามขัดขวางเพื่อไม่ให้ทราบถึงพระเนตรพระกรรณ์ ไม่ทราบว่าผู้ที่ขัดขวางเป็นก้าวล่วงพระราชหรือเปล่า จริงมะ

เท่าที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ถ้านายกรัฐมนตรีดวงตาเห็นธรรมจริง จงไปเสียเถิด เนื่องจากคุณมาไม่ชอบธรรม ประชาชนเขารู้ว่าท่านมาไม่ถูกต้อง ยุบสภาน่าจะเป็นทางออกที่ดี เริ่มนับหนึ่งใหม่ ใครชนะอยู่ที่ประชาชนเป็นคนตัดสิน

สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)