ใครจะทำอะไร คิดอะไร พูดอะไร เสนออะไร ที่ตรงข้าม...มองเห็นเป็นความผิดไปเสียหมด แต่ตัวเองทำเอง พวกพ้องทำเอง กลับมองไม่เห็น ยังมีความยุติธรรมอยู่ในกมลสันดานหรือเปล่า? ข่าวที่เสนอตามหน้าสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าความผิด ต่อหน้าหน้าและลับหลัง กลับมองไม่เห็นความอยุติธรรมเหล่านี้ มันช่างน่าสมเพชสิ้นดี เช่น
1)การได้เป็นรัฐบาล โดยไม่เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นที่น่าเวทนาและถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก แต่กลับหน้าระรื่นบอกว่าได้มาตามระบอบรัฐสภา ทั้งที่ไปปล้นเขามา ! กรณีงูเห่า
2)พันธมิตรซึ่งเป็นพวกพ้องทำความผิด กลับมองไม่เห็น แล้วยังปูนบำเหน็จความดีความชอบให้อีก แทนที่จะจับดำเนินการสะสางความผิด กลับปล่อยให้ลอยนวล ทอดเวลาไปเรื่อย ๆ เป็นการตบหน้าประชาชนอย่างแรง
3)หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย ชายไทยไม่พึงปฏิบัติ กลับได้คำตอบจากกองทัพบกว่า “เรื่องมันจบไปแล้ว !“ จริงครับมันจบไปแล้ว เพราะมันหมดอายุความ แต่มันเป็นตัวอย่างที่คนเป็นนายกของประเทศไม่พึงปฏิบัติ ถ้าชายไทยเอาเยี่ยงอย่าง ท่านนายกจะว่าอย่างไร
4)การออกมาจ้องจับผิด PTV , วิทยุมวลชน เป็นการปิดหูปิดตาประชาชนในการรับทราบข้อมูลข่าวสารอีกด้านหนึ่ง แต่กลับมองว่าเป็นความชอบธรรมของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงของรัฐ แต่กับ ASTV โจมตีรัฐบาลชุดก่อนกลับมองไม่เห็นความผิด ทำหูทวนลม ทำเป็นมองไม่เห็นไปเสียฉิบ
5)สำหรับกองทัพมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่วางตัวเป็นกลาง ข่มขู่รัฐบาลชุดก่อน อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล จนได้ฉายา “รัฐบาลสีเขียว” กองทัพไม่มีความผิด แค่กับร.ท.หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปร่วมงานกับ PTV มองเห็นเป็นความผิดใหญ่โต ขอร้องเถิด อย่าไปรังแกข้าราชการเด็ก ๆ เลย โดยเฉพาะผู้หญิง จะถูกตราหน้าว่ารังแกผู้หญิงเพศแม่ของตัวเอง
6)การปฏิวัติ การล้มล้างระบอบการปกครอง การฉีกรัฐธรรมนูญ ทำให้ประเทศเสียหาย ไม่เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ทำให้การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ประเทศสูญเสียรายได้นับแสนล้านบาท ส่งผลให้ประชาชนที่ยากจน ยิ่งยากจนลงไปอีก ประชาชนตกงานเป็นล้าน กลับมองไม่เห็นความผิด น่าทุเรศสิ้นดี
1)การได้เป็นรัฐบาล โดยไม่เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นที่น่าเวทนาและถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก แต่กลับหน้าระรื่นบอกว่าได้มาตามระบอบรัฐสภา ทั้งที่ไปปล้นเขามา ! กรณีงูเห่า
2)พันธมิตรซึ่งเป็นพวกพ้องทำความผิด กลับมองไม่เห็น แล้วยังปูนบำเหน็จความดีความชอบให้อีก แทนที่จะจับดำเนินการสะสางความผิด กลับปล่อยให้ลอยนวล ทอดเวลาไปเรื่อย ๆ เป็นการตบหน้าประชาชนอย่างแรง
3)หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย ชายไทยไม่พึงปฏิบัติ กลับได้คำตอบจากกองทัพบกว่า “เรื่องมันจบไปแล้ว !“ จริงครับมันจบไปแล้ว เพราะมันหมดอายุความ แต่มันเป็นตัวอย่างที่คนเป็นนายกของประเทศไม่พึงปฏิบัติ ถ้าชายไทยเอาเยี่ยงอย่าง ท่านนายกจะว่าอย่างไร
4)การออกมาจ้องจับผิด PTV , วิทยุมวลชน เป็นการปิดหูปิดตาประชาชนในการรับทราบข้อมูลข่าวสารอีกด้านหนึ่ง แต่กลับมองว่าเป็นความชอบธรรมของรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงของรัฐ แต่กับ ASTV โจมตีรัฐบาลชุดก่อนกลับมองไม่เห็นความผิด ทำหูทวนลม ทำเป็นมองไม่เห็นไปเสียฉิบ
5)สำหรับกองทัพมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่วางตัวเป็นกลาง ข่มขู่รัฐบาลชุดก่อน อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล จนได้ฉายา “รัฐบาลสีเขียว” กองทัพไม่มีความผิด แค่กับร.ท.หญิงตัวเล็ก ๆ จะไปร่วมงานกับ PTV มองเห็นเป็นความผิดใหญ่โต ขอร้องเถิด อย่าไปรังแกข้าราชการเด็ก ๆ เลย โดยเฉพาะผู้หญิง จะถูกตราหน้าว่ารังแกผู้หญิงเพศแม่ของตัวเอง
6)การปฏิวัติ การล้มล้างระบอบการปกครอง การฉีกรัฐธรรมนูญ ทำให้ประเทศเสียหาย ไม่เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ทำให้การพัฒนาประเทศหยุดชะงัก ประเทศสูญเสียรายได้นับแสนล้านบาท ส่งผลให้ประชาชนที่ยากจน ยิ่งยากจนลงไปอีก ประชาชนตกงานเป็นล้าน กลับมองไม่เห็นความผิด น่าทุเรศสิ้นดี
27 มกราคม 2552 เวลา 19:23
ทหารเลว+นักการเมืองเลว+นักวิชาการระยำ+นักหนังสือพิมพ์เฮงซวย= ร้ฐบาลโอ่บ้ามาก
2 กันยายน 2552 เวลา 13:27
เห็นด้วย มีคนชอบพุดว่าไม่มีทักษิณประเทศนี้ก็อยู่ได้ ก็เลยอยากจะถามกลับไปบ้างว่า ถ้าไม่มีอีแอบ หรือทหารมาปฏิวัติและทหารไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ประเทศนี้ก็อยู่ได้เช่นกัน อาจจะอยู่ได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องมามีตัวแบ่งผลประโยชน์ไปกินน่าตาเฉย ถ้าทหารอยากมาทำงานการเมืองก็น่าจะลาออกมาก่อน ดูทหารรุ่นพี่ที่ทำไว้อย่างพลเอกชวลิตสิ ถ้าทำอย่างนั้นก็จะไม่มีใครไปว่าได้หรอก กลับชื่นชมสปิริตด้วยซ้ำไป เป็นทหารอย่างเดียวยังมีอำนาจมากไม่พอหรืออย่างไร หรือต้องการทั้งผลประโยชน์และอำนาจอยู่ในมือ