1. พันธมิตรควรอ่านและนำไปพิจารณาซะดี ๆ เพราะพวกคุณมีส่วนอยู่ในสถานนั้นด้วยเช่นกัน พวกคุณทำให้สถานการณ์ สุกงอม นำไปสู่การปฏิวัติ ห้ามปฏิเสธนะครับ เพราะประชาชนไม่เชื่อพวกคุณอีกต่อไป

  2. ท่านอดีตประธานคมช. พูดชัดเจน ถ้าไม่ปฏิวัติ จะเกิดการนองเลือด เพราะประชาชนทั้งสองฝ่ายจะปะทะกัน แต่ถ้าท่านฉุกคิดนึกถึงกรรมการห้ามมวย ถ้ากรรมการบอก “ชก!” นักมวยจะชกกัน ถ้ากรรมการบอก “แยก!” นักมวยจะแยกจากกัน ถ้าบอก “หยุด!” นักมวยหยุดชกกัน การสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมท่านสามารถทำได้แต่ไม่ทำ ท่านเลือกใช้วิธีปฏิวัติ เพราะท่านอาจมีวาระซ่อนเร้น ดั่งคำพูดของท่าน “ถ้าย้อนอดีตได้จะไม่ให้ พล.อ. สุรยุทธ ฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านจะเป็นเสียเอง” ชัดเจนไหม ?? พวกพันธมิตรท่านทำเพราะตัวท่านเองแต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ไม่ใช่เพื่อพวกคุณ

  3. ข้อพิสูจน์ที่ท่านสามารถสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนมาชุมนุม ช่วงที่นปก.ชุมนุมต่อต้านเผด็จการ ท่านสกัดกั้นประชาชนไม่ให้มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวงร่วมกับนปก.โดยสั่งให้ตำรวจ ทหาร ตั้งด่านตรวจทุกเส้นทางที่มุ่งสู่กรุงเทพ ฯ จริงไหมครับท่าน ??? ทำไมท่านทำได้ล่ะ

  4. ในหนังสือ “ลับ ลวง พราง ปฏิวัติปราสาททราย” เป็นคำตอบสุดท้ายที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 49 , รัฐธรรมนูยปี 50 , องค์กรต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยคมช. น่าจะขาดความชอบธรรม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญฉบับ 14 ล้านเสียง ท่านต้องมองด้วยความเป็นธรรม ในช่วงที่ลงประชามติ “รับร่าง” “ไม่รับร่าง” ประชาชนมีสิทธิ์ลงมติ 45 ล้านเสียง (ถ้าผิดขออภัยด้วย) รับร่าง 14 ล้านเสียง , ไม่รับ 10 ล้านเสียง รวม 24 ล้านเสียงอาจอยู่เฉย ๆ ไม่ลงคะแนน (พลังเงียบ) 21 ล้านเสียง

สรุป


  1. รับร่าง 14 ล้านเสียง

  2. ไม่รับ 10 ล้านเสียง

  3. พลังเงียบ / อยู่เฉย 21 ล้านเสียง

  4. ข้อ 2 + ข้อ 3 เท่ากับ 31 ล้านเสียง จริงไหมครับ ห้ามกล่างถึงอีกต่อไป

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

สมัครสมาชิก: ส่งความคิดเห็น (Atom)